Select Page

ศอ.บต. ประชุมขับเคลื่อนเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ จชต. พร้อมเดินหน้าตามนโยบายการพัฒนาไร้ร่อยต่อมิติใหม่การพัฒนาชายแดนใต้ เน้นย้ำประชาชนในพื้นที่จะต้องมีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

    เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)   พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมหารือเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ (YES) กลุ่มผู้ประกอบการ Startup และกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเชื่อมโยงการประกอบธุรกิจแบบไร้รอยต่อ และเปิดโอกาสให้กลุ่มได้นำเสนอการดำเนินกิจการ ปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ โดยมี นายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นายธีรวิทย์  เฑียรฆโรจน์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

    พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ  รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  (ศอ.บต.) กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมรับฟังการดำเนินกิจการของนักธุรกิจรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ Startup และ SMEs ในพื้นที่ จชต. ซึ่งเป้าหมายของ ศอ.บต. คือต้องการขับเคลื่อนในส่วนที่เป็นช่องว่างหรือการดำเนินกิจการที่ขาดช่วงในแต่ละกลุ่ม แต่ละคน แต่ละธุรกิจ จากนั้น ศอ.บต.จะดำเนินการหาวิธีการเชื่อมโยงและเดินหน้าให้เป็นระบบ โดยเฉพาะการแปรรูปสินค้าส่งออกต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละกลุ่มยังประสบปัญหาอุปสรรคด้านการตลาดบ้าง วัตถุดิบบ้าง บรรจุภัณฑ์บ้าง การหารือในวันนี้จะเป็นช่องทางในการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้เกิดการพัฒนาให้ตรงจุดและเป็นขั้นเป็นตอน สามารถที่จะหนุนเสริมซึ่งกันและกันได้ต่อไป

    สำหรับการประชุมหารือในครั้งนี้ กลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ จชต. ได้นำเสนอถึงกิจการและธุรกิจของแต่ละกลุ่มที่มีความหลากหลายทั้งด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การประมง การค้า การท่องเที่ยว การแปรรูปผลิตภัณฑ์  และธุรกิจออนไลน์ ทั้งนี้ ส่วนสำคัญคือการส่งเสริมด้านการศึกษาและสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่มีความรักและห่วงแหนบ้านเกิด ดึงเอาศักยภาพของพื้นที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย  นอกจากนี้ กลุ่มนักธุรกิจและผู้ประกอบการยังได้มีข้อเสนอแนะให้ มีการเพิ่มศักยภาพและให้ความรู้แก่แรงงานในพื้นที่ด้านวิชาชีพและธุรกิจออนไลน์เป็นอีกช่องทางการตลาดที่มีความรวดเร็วและสร้างรายได้ดีในยุคไทยแลนด์ 4.0

    อย่างไรก็ตามการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ จชต. จะต้องเดินหน้าด้วยการบูรณาการกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนนักธุรกิจและผู้ประกอบการในทุกๆ ด้าน ให้สามารถต่อยอดให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน

 125 total views

ศอ.บต. เตรียมฝึกทักษะด้านมารยาทไทย แก่ทีมชนะเลิศการประกวดมารยาทไทยในการแข่งขันวิชาการของสถาบันอาชีวศึกษาจังหวัดยะลา ก่อนร่วมแข่งขันระดับเขต

    สถาบันอาชีวศึกษาจังหวัดยะลาจัดแข่งทักษะทางวิชาการองค์การวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทยระดับอาชีวศึกษาจังหวัดยะลา  เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักเรียน นักศึกษา  เข้าแข่งขันระดับภาคใต้ของ   แต่ละทักษะวิชาชีพและทักษะพื้นฐาน โดยในวันนี้ 21 พ.ย. 61 จัดแข่งขันการประกวดมารยาทไทย ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา  อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีสถาบันในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดยะลา สนใจส่งนักเรียนเข้าร่วม แข่งทักษะพื้นฐานการประกวดมารยาทไทย  จำนวน 7 ทีม   ซึ่งทีมจากวิทยาลัยเทคนิคยะลา ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน  เป็นตัวแทนในระดับอาชีวะศึกษาจังหวัดยะลา  ไปแข่งขันระดับเขต ในจังหวัดสตูล ภายในเดือนธันวาคมนี้

    สำหรับศิลปวัฒนธรรมไทย ด้านมารยาทไทยนั้นถือว่าเป็นสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา ทางด้านกิริยา วาจาต่างๆ เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การรับของส่งของ การทำความเคารพ ที่สุภาพเรียบร้อยที่บุคคลพึงปฏิบัติในสังคมโดยมีระเบียบแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ  และถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของคนไทย  ด้วยเหตุนี้ทางสถาบันอาชีวศึกษาจึงได้จัดการแข่งขันขึ้น

    ทั้งนี้ทีมที่ชนะเลิศการประกวดจากวิทยาลัยเทคนิคยะลา มีกำหนดการเข้าฝึกเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถด้านมารยาทไทย  กับนางกิ่งกาญน์  รักษาสัตย์  นักวิชาการศึกษาชำนาญการ ศอ.บต. ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านมารยาทไทยอย่างดี โดยเฉพาะมีเกณฑ์การประเมิน ท่าบังคับ คือ กราบ เบญจางคประดิษฐ์ การถวายการเคารพพระบรมรูป และท่าบังคับเลือก คือ ประเคนสิ่งของแด่พระภิกษุสงค์  กราบผู้ใหญ่ขณะผู้ใหญ่นั่งกับพื้น  รับสิ่งของจากผู้ใหญ่ และการเดินผ่านผู้ใหญ่และไหว้ผู้ใหญ่  ซึ่งจะใช้ในการแข่งขันระดับเขตต่อไป

 285 total views

พนักงานรักษาความปลอดภัย ศอ.บต. 29 คน ผ่านหลักสูตรพัฒนาศักยภาพแล้ว ขณะที่ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ย้ำทุกคนคือครอบครัว ทำหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ

    วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2561) ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศอ.บต. พลเรือตรีสมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)   เป็นประธานปิดการอบรมในกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัย รุ่นที่ 1 ประจำ ปีงบประมาณ 2562  จำนวน 29 คน พร้อมมอบประกาศนียบัตรการฝึกดับเพลิงเบื้องต้น  ประกาศนียบัตรการทดสอบกำลังใจด้วยการกระโดดหอสูง 34 ฟุต  ประกาศนียบัตรรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น  โดยมีผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้อำนวยการสำนัก/กอง ศอ.บต. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในพิธีปิดครั้งนี้

    พลเรือตรีสมเกียรติ  ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว  แสดงความยินดีแก่พนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคนที่ได้สำเร็จการฝึกอบรมขั้นต้นในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้ทุกคนเกิดความภาคภูมิใจในหน้าที่ของตน ไม่ใช่แค่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย  แต่จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่จะสร้างความประทับใจและศรัทธาให้แก่องค์กร ด้วยการใช้สิ่งที่ได้รับจากการฝึกปฏิบัติ อบรมจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  โดยกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัย มีกิจกรรมทั้ง  ฝึกมาตรการในการรักษาความปลอดภัย  ฝึกการดับเพลิง ฝึกการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากการก่อเหตุ  ฝึกยิงปืน และทดสอบกำลังใจด้วยการกระโดดหอสูง 34 ฟุตได้เสร็จสิ้นบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ ใช้ทักษะที่ได้ฝึกอบรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ทั้งนี้การอบรมกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัยของ ศอ.บต. รุ่นที่ 2  มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายน 2561 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 37 คน เข้าร่วม

 231 total views

ศอ.บต. ติดตามการกวาดล้างโรคหัดในพื้นที่ยะลา พบอัตราการแพร่ระบาดลดลง ขณะที่รองเลขาธิการ ศอ.บต. ยังคงย้ำให้ทุกพื้นที่ดำเนินการตามมาตรการ 4 เคาะ เพื่อให้โรคหัดหายไป

    จากสถานการณ์การระบาดของโรคหัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับมอบหมายในการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินงานด้านต่างๆในพื้นที่  ซึ่งในส่วนของสถานการณ์โรคหัด ศอ.บต.ได้  บูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคหัดในพื้นที่เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดยังคงพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมแล้ว 18 ราย

    และจากการแพร่ระบาดของโรคหัดที่ยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ ( 20 พ.ย. 61 ) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมประชุม  ศูนย์ปฏิบัติการ EOC โรคหัด จังหวัดยะลา ที่ห้องประชุมราชพฤกษ์ ชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคหัดและเร่งควบคุม  กวาดล้างให้โรคหัดหายไปจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี  นายปรีชา ชนะกิจจร ผู้อำนวยการกองส่งเสริม และสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. นายสงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา คณะเจ้าหน้าที่ และผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา  โดยในที่ประชุมมีการหารือถึงยอดผู้เสียที่ชีวิตที่ยังคงเกิดขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาหลังจากมีการดำเนินการตามมาตรการ 4 เคาะ  ตั้งแต่มาตรการเคาะกลุ่มผู้สัมผัส เคาะประตูบ้าน เคาะประตูโรงพยาบาล  และเคาะประตูโรงเรียน  ซึ่งมีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว

     พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวเน้นย้ำในที่ประชุมว่า หลังจากนี้ทุกภาคส่วนจะต้องเร่งเดินหน้าในการดำเนินการตามมาตรการการเคาะอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเคาะประตูโรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบการฉีดวัคซีนโรคหัดในเด็กก่อนวัย 12 ปี และดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก  พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำถึงการลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน

    นายสงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จังหวัดยะลาขณะนี้มีอัตราการแพร่ระบาดของโรคหัดลดลง เนื่องจากทุกภาคส่วนมีการช่วยกันรณรงค์ทำให้สถานการณ์ของโรคหัดในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีการดำเนินการฉีดวัคซีนในเด็กที่มีภาวะเสี่ยงในช่วงอายุ 9 เดือน – 5 ปี ไปแล้ว ร้อยละ 94  และหากได้รับการฉีดวัคซีนครบ  ร้อยละ 95 ของสมาชิกในหมู่บ้านและอำเภอตามที่กำหนดไว้จะทำให้เราสามารถป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กที่มีภาวะเสี่ยงได้อย่างแน่นอน

    นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เผยอีกว่า ในส่วนการให้ความรู้แก่แม่หลังคลอดเกี่ยวกับวัคซีนโรคหัด นั้นทางสาธารณสุขจังหวัดยะลามีการดำเนินการให้แก่คุณแม่หลังคลอดได้รับทราบถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีน เนื่องจากเด็กที่มีอายุก่อนการฉีดวัคซีนนั้น จะมีภูมิคุ้มกันที่ส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูกตั้งแต่แรกเกิดถึง 9 เดือน หลังจากนั้นก็จะลดต่ำลงโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นเด็กควรได้รับการวัคซีนหลังจาก 9 เดือนอีกครั้งก็จะทำให้มีภูมิต้านทานมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาวิธีนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากคุณแม่หลังคลอดเป็นอย่างดี

 132 total views

รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เดินหน้าพัฒนาชายแดนใต้แบบไร้รอยต่อ ตั้งเป้าความสำเร็จในปี 62 สร้างอาชีพและรายได้แก่ปชช.

    วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2561) เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองรักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าพบพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อหารือการขยายตลาดสินค้าแปรรูปและสินค้าโอท็อปในต่างประเทศ ซึ่งมีกล้วยเส้นแปรรูป ลูกหยีแปรรูป ปลาส้ม เครื่องแกงแพะ กะหรี่ปั๊บ ทุเรียนทอด โรตีกรอบ โรตีไส้แกงกะหรี่ไก่ และปอเปี๊ยะไส้ผักแปรรูป โดยสินค้าที่นำมาหารือในครั้งนี้เป็นสินค้าที่ ศอ.บต.ให้การสนับสนุนการตลาดมาก่อนแล้ว บางชนิดมีการส่งออกไปยังประเทศจีน ลาว และประเทศมาเลเซีย แต่บางชนิดยังต้องส่งเสริมการผลิตให้ได้มาตรฐาน และหาวัตถุดิบเพื่อการผลิตและส่งออกได้ทันตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าต่างประเทศต้องการ

    พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงอนาคตอาชีพของประชาชนในพื้นที่ว่า อาชีพหลักในพื้นที่มีอยู่ 3 ระดับคือ ระดับฐานราก เป็นระดับผู้ปลูกและเลี้ยงสัตว์ ระดับแปรรูปในชุมชน เป็นระดับการแปรรูปโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ และระดับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งวันนี้ ศอ.บต. พร้อมสนับสนุนให้พี่น้องเกษตรกรทำอาชีพเชิงคู่ และแปรรูปสินค้าในชุมชนให้มีคุณภาพพร้อมส่งออกทั้งในและต่างประเทศ  

    รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. ยังกล่าวอีกว่า หน่วยงานทุกหน่วยงานและทุกจังหวัดในพื้นที่ต่างทำหน้าที่ตามนโยบายได้ดีตลอดมา แต่สิ่งที่ยังขาดหายคือ ช่องว่างในการเชื่อมต่อระหว่างกัน จึงทำให้สิ่งต่างๆที่ขับเคลื่อนและพัฒนายังวนอยู่ที่เดิม สินค้าโอท็อปยังคงเป็นของดีในพื้นที่ที่ไม่ถูกส่งออก และรอผู้มาซื้อ ส่วนคนเลี้ยงสัตว์ก็ยังคงเลี้ยงโดยไม่มีจุดหมายของตลาดสินค้า การพัฒนาแบบไร้รอยต่อ ชายแดนใต้ จึงเป็นการพัฒนาที่ก้าวข้ามช่องว่างที่เคยมี ดึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารวมกันที่ ศอ.บต. เพื่อร่วมกันพัฒนาทุกเรื่องให้เป็นรูปธรรม ทั้งด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมการแปรรูปและการผลิต การส่งออกสินค้า เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายในเดือนสิงหาคม 2562 จะต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในทุกเรื่อง   

    ด้านนางมาลัย เพ็งมูซอ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกล้วย จังหวัดปัตตานี หนึ่งในผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการปั้นดาวชายแดนใต้ ประจำปี 2561 เผยถึงการเริ่มต้นทำธุรกิจและส่งออกกล้วยเส้นแปรรูปว่า จากเดิมที่เป็นกลุ่มแม่บ้านร่วมกันทำกล้วยเส้นขายในชุมชนและจังหวัด ศอ.บต.เป็นองค์กรที่เปิดโอกาสให้มองเห็นศักยภาพในการนำพาธุรกิจสู่ตลาดสากลได้ ซึ่งตลาดในต่างประเทศให้การตอบรับดี ใช้ความรู้จากที่เข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมดและรู้ว่าจะปิดช่องโหว่ และทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดได้อย่างไร สร้างอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชนเป็นอย่างมา

    อย่างไรก็ดี การพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของศอ.บต. ในการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าการเกษตร การส่งเสริมการตลาดอย่างเป็นระบบครบวงจรและการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมสร้างมาตรการ กลไก แรงจูงใจและกระตุ้นการลงทุนจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเปลี่ยน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

 104 total views