วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2561) ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ศอ.บต. พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประธานเปิดอบรมในกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัย ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมีผู้อำนวยการกอง ศอ.บต. ผู้อำนวยการกลุ่ม ศอ.บต. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด การฝึกอบรม

    พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า ศอ.บต. นั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งที่มีองค์ประกอบหลายส่วน ทุกคนในบ้านล้วนมีความสำคัญ ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดของบ้านหลังนี้คือรั้ว เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแรง ความปลอดภัย ความมั่นคงให้สมาชิกภายในบ้าน เป็นส่วนที่สร้างความประทับใจแรกแก่ผู้ที่พบเห็นและผู้ที่มาเยือนบ้านของเรา ดังนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงเปรียบเสมือนรั้วของบ้านที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งมีหน้าที่สร้างความศรัทธาและความเชื่อมั่นให้แก่คนในบ้านและคนที่มาเยือน รักษาความปลอดภัยบ้าน ศอ.บต. โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกอบรมที่จัดขึ้นครั้งนี้จะทำให้มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะในการปฏิบัติงาน สร้างความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น

    สำหรับกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัย ประจำปีงบประมาณ 2562 จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้กำหนดกิจกรรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ได้แก่ การใช้และการบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ในการตรวจ การตรวจตรา ลาดตระเวน การตรวจค้นและสังเกตบุคคล ยานพาหนะ อาคาร สถานที่ วัตถุต้องสงสัย การจราจร การจัดการเหตุอัคคีภัยทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และกิจกรรมทดสอบกำลังใจ (กระโดดหอ)

    ทั้งนี้การอบรมกิจกรรมเพิ่มศักยภาพพนักงานรักษาความปลอดภัยของ ศอ.บต. มีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 75 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น รุ่นแรกระหว่างวันที่วันที่ 16 – 20 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 38 คน และรุ่งที่สองระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 37 คน

    วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2561)  ที่ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจไปในทิศทางของ ศอ.บต. ตามนโยบาย “ การพัฒนาไร้รอยต่อ มิติใหม่การพัฒนาชายแดนใต้” ประจำปีงบประมาณ 2562 แก่กลุ่มเครือข่ายวิทยุ ศอ.บต. 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นวิทยุหลักและวิทยุชุมชน จำนวน 18 คลื่นความถี่ โดยมี นายสมนึก ฉีดเสน ผู้อำนวยการส่วนงานวิทยุกระจายเสียง ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

    นาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  ศอ.บต.ได้กล่าวถึงบทบาทการดำเนินงานของศอ.บต.ในปีงบประมาณ 2562 ว่า รัฐบาลมีนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบโดย ศอ.บต.เป็นหน่วยงานหลักในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่จะต้องเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน ซึ่งในวันนี้เครือข่ายวิทยุ ศอ.บต. คือกำลังสำคัญที่จะต้องสื่อสารให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

    ทั้งนี้ นาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ศอ.บต.ร่วมกับ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อเร่งรัดการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการดำเนินงานการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน อีกทั้ง สร้างเศรษฐกิจภาคใต้ชายแดนให้เติบโตอย่างเนื่อง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้มีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีการพัฒนาในทุกมิติ ทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี  เป็นคนเก่ง มีคุณภาพ เชื่อมต่อเยาวชนจากสถานศึกษาเข้าสู่การมีงานทำอย่างมั่นคง

    อย่างไรก็ตามการสื่อสารสร้างความเข้าใจเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องดำเนินงานอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มเครือข่ายวิทยุ ศอ.บต. เป็นกระบอกเสียงที่สามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่รวมทั้งสร้างความเข้าใจในทุกมิติต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่อีกด้วย

    ด้วยรัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเพื่อให้พื้นที่เกิดความสันติสุข ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี รวมทั้งมีนโยบายพาคนกลับบ้าน เพื่อนำพาผู้ที่เห็นต่าง ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กลับมาต่อสู้ สร้างความเป็นธรรมและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ไปพร้อมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคนในพื้นที่

    ทั้งนี้ ศอ.บต.ในฐานะศูนย์กลางการประสานงานกับทุกภาคส่วน อีกทั้งยังได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาไร้รอยต่อ มิติใหม่การพัฒนาชายแดนใต้ เสริมการพัฒนาลดความเลื่อมล้ำในพื้นที่ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน ซึ่ง ศอ.บต. ได้ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 สน.) กำหนดให้มีการจัดอบรมเสริมสร้างความเข้าใจและแนวทางความร่วมมือของผู้ร่วมสร้างสันติสุขระดับอำเภอ เพื่อสร้างความเข้าใจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยจะเป็นการต่อยอดสู่อาชีพที่สร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัวของผู้เข้าร่วมโครงการ    และขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมโครงการ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยการหันหน้ามาคุยกัน ทำความเข้าใจ เพื่อสร้างสันติสุขร่วมกันในพื้นที่

    โดย วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2561) ณ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารอเนกประสงค์ ศอ.บต.  พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูรรองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานมอบเช็คเงินสด กิจกรรมการสนับสนุนและส่งเสริมอาชีพกลุ่มผู้ร่วมสร้างสันติสุขระดับอำเภอ ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมี นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรมผู้อำนวยการกองบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมมอบเช็คและพบปะผู้เข้าร่วมกิจกรรม

    พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวส่วนหนึ่งของการพบปะว่า การมาพบปะในครั้งนี้เป็นการมาร่วมสื่อสารสร้างความเข้าใจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้เงินทุนถือเป็นแค่ปัจจัยส่วนหนึ่งในการต่อยอดอาชีพ แต่การสร้างความเข้าใจถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าไปด้วยกัน จึงขอยืนยันว่าความรุ่งเรืองของแต่ละประเทศเกิดจากการอยู่ร่วมกันที่หลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ ศาสนา แต่ที่สุดแล้วทุกคนก็คือพี่น้องกัน ทั้งนี้ทุกส่วน ทั้ง ศอ.บต. กอ.รมน. ร่วมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ต่างเป็นส่วนสำคัญในการนำทุกคนกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัว

    สำหรับกรอบการดำเนินงานโครงการพาคนกลับบ้าน มี 6 ขั้นตอนซึ่งประกอบด้วย  ขั้นการรณรงค์เสริมสร้างความเข้าใจ และชักชวนสมาชิกผู้ก่อการฯ เข้าร่วมโครงการ ขั้นการรับรายงานเข้าร่วมโครงการ (ขั้นการลบข้อมูลของตำรวจ) ขั้นการอบรมปรับความคิดความเชื่อ ขั้นการอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขั้นการฝึกอบรมอาชีพและหาอาชีพให้ทำ ส่งเสริมรายได้ และขั้นติดตามพัฒนาสัมพันธ์ เมื่อกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนของการส่งเสริมอาชีพและรายได้ โดยมอบเช็คเงินสดจำนวน 10,000 บาท เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีทุนนำไปประกอบอาชีพที่สุจริต ดูแลครอบครัว ซึ่ง ศอ.บต. พร้อมที่จะสนับสนุนให้ทุกคนมีจุดยืน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาสันติสุขกลับมาสู่พื้นที่ต่อไป

    วันนี้ ( 14 พฤศจิกายน  2561 ) ที่ ห้องเก้าแสน ชั้น 9 โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  นาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)  ร่วมบรรยายพิเศษการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องการปรับตัวชี้วัดในการประเมินผล   การปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหา จชต. ประจำปีงบประมาณ 2562  ในหัวข้อนโยบายการแก้ไขปัญหา จชต. ด้านการพัฒนา  เพื่อความมั่นคง จัดโดยศูนย์การประสานการปฎิบัติที่ 5 กอ.รมน.

    นาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. กล่าวขณะบรรยายถึงบทบาทหน้าที่ การจัดตั้ง ศอ.บต. ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน  ว่าอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของ ศอ.บต.ได้แก่ อำนวยความเป็นธรรม  เยียวยา  สร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่  ดูแลด้านการศึกษา   ด้านสังคมพหุวัฒนธรรม และบูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดเอกภาพเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประชาชนในพื้นที่  อีกทั้งกล่าวถึงบทบาทใหม่ของ ศอ.บต. ในการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ให้เป็นเอกภาพ  เร่งรัด ติดตามการดำเนินงานกับหน่วยงานต่างๆ เสริมการทำงานของกระทรวง กรม  และสนับสนุนงานความมั่นคงของ กอ.รมน.ภาค 4 สน.

    นอกจากนี้ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. กล่าวอีกว่านโยบายใหม่ของ ศอ.บต. “การพัฒนาไร้รอยต่อ  มิติใหม่การพัฒนาชายแดนใต้”  โดยเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อหน่วยงานของภาครัฐให้  เป็นเอกภาพ  มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน  โดยเฉพาะเชื่อต่อเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 14 เขต  เพื่อนำไปสู้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่  ซึ่งบทบาทภารกิจ โครงสร้างดังกล่าวจะเกื้อกูลต่อการดำเนินงานของ กอ.รมน. ภาค 4 สน.  คือ การสร้างสันติสุขใน จชต.  ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว  อีกทั้งสามารถหนุนเสริมการพัฒนา จชต. ของหน่วยงานพลเรือนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงตัวชี้วัดในการประเมินผลการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหา จชต. ประจำปีงบประมาณ 2562 จัดขึ้นเพื่อรับทราบปัญหา ข้อแนะนำ และแนวทางการพัฒนา การดำเนินงานตามแผนงานโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการแก้ปัญหา  เพื่อปรับปรุงตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง  นโยบายการบริหารและการพัฒนา จชต.  และแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จชต.  โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 มีผู้เข้าร่วม 127 คน

    วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2561) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย ดร.ชนธัญ แสงพุ่ม ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับนาย เดวิด หยาง นายกสมาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศจีน และคณะซึ่งเดินทางเข้าพบปะเพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

    พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยถึงการหารือกับนักธุรกิจชาวจีนว่า ทางคณะได้มีความสนใจที่จะร่วมมือในด้านการค้า และการลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเน้นในเรื่องเกษตรแปรรูป ผลผลิตทางด้านฮาลาล และการท่องเที่ยวที่จะสามารถเชื่อมโยงกันได้ เพราะในพื้นที่ อำเภอเบตง ขณะนี้มีการก่อสร้างสนามบินเบตง และจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง (Sky Walk) โดย ศอ.บตได้เชิญชวนให้กลุ่มนักลงทุนที่มีความสนใจ เข้ามาสำรวจในพื้นที่ และหากมีความพร้อมที่จะลงทุน ศอ.บต. ก็พร้อมที่จะสนับสนุนในทุกๆด้าน

    นอกจากรองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เปิดเผยเรื่องของการต่อยอดการลงทุนว่า ทางศอ.บต. เราจะมีการต่อยอดเรื่องของเกษตรแปรรูป ในพื้นที่ อ.หนองจิก ที่มีการขยายโรงงานมะพร้าว หากทางประเทศจีนมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนก็จะเป็นสิ่งที่ดี รวมถึงจะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนพื้นที่อีกด้วย

    อย่างไรก็ตามเมื่อเสร็จสิ้นการหารือ ทางคณะจีนยังได้ไปเยี่ยมชม พื้นที่การพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของ อ.หนองจิก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นเมืองต้นแบบสำหรับการพัฒนา เกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน  ที่สามารถครอบคลุมทั่วพื้นที่ของอำเภอ