วันนี้ (23  ตุลาคม  2561 )  นายแพทย์สมหมาย  บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)  ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(วันปิยมหาาราช)  ซึ่งนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา  ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธี และมีหัวหน้าส่วนราชการ  ตำรวจ  ทหาร  ฝ่ายปกครอง  และประชาชนในพื้นที่  เข้าร่วม

     โดยในช่วงเช้า นายแพทย์สมหมาย  บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ  ศอ.บต. นำข้าราชการ  พนักงาน ศอ.บต. ร่วมพิธีทางศาสนาและทำบุญตักบาตร พระสงฆ์  จำนวน  57  รูป  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาาราช  ณ อาคารศรีนิบง  ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา  ต่อมาได้ร่วมกิจกรรมวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์  เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ลานพระบรมราชานุเสารีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเหล้าเจ้าอยู่หัว สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา  ซึ่งประชาชนที่เข้าร่วมพิธีส่วนใหญ่พร้อมใจกันแต่งกายด้วยโทนสีชมพู

     จากนั้นเวลา 19.00 น. ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80  พรรษา  5 ธันวาคม  2550  มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา  นายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ศอ.บต. เข้าร่วม  กิจกรรมจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี    ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเป็นประธานในพิธี

     วันที่(23 ตุลาคม 2561) ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดยะลา(ศูนย์เสื้อเขียว) บ้านปากาซาแม หมู่1 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา  พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 เป็นประธานการจัดกิจกรรมรวมพลคนทำดีเพื่อแผ่นดินจิตอาสากลุ่มเสื้อเขียวจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบนโยบายการขับเคลื่อนงาน ปีงบประมาณ 2562  โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา   ปลัดจังหวัด  นายอำเภอ  เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ  ผู้นำศาสนา และสมาชิกองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชายแดนภาคใต้(กลุ่มเสื้อเขียว) เข้าร่วม

     พล.ท.พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์  แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดคือความทุกในใจของพี่น้องทุกคน   ตอนนี้เราเตรียมเครื่องมือสำหรับการกวาดล้างยาเสพติดไว้พร้อมแล้ว  โดยเริ่มจากปัดกวาดบ้านของตัวเองก่อนโดยลงมือตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนแล้วผลออกมาในระดับดี  ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากผู้ติดยาเสพติด  เราต้องกำจัดผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยที่อยู่ในทุกๆหมู่บ้านทุกๆตำบลให้หมดไปเพื่อให้การซื้อขายยาเสพติดเป็นเรื่องที่ยากขึ้น   ฉะนั้นกำนันและผู้ใหญ่บ้านต้องเป็นหลักเพื่อแก้ปัญหาลูกบ้านในทุกๆบ้าน  ส่วนเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่เป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กันไป  โดยให้ทหารออกนอกฐานเพื่อไปคุ้มครองประชาชน   คุ้มครองเส้นทาง  เพื่อลดการสร้างเงื่อนไข  และสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมให้เข้มแข็ง  ชาวไทยพุทธ  มุสลิม อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  สมาชิกเสื้อเขียวต้องเป็นแกนหลักในการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม  หัวใจหลักของกอ.รมน.คือ  จิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ  และทางกองทัพได้เปิดตู้ปณ.41ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนได้ส่งข้อมูลและร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหายาเสพติด  ปัญหาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องระบุตัวตนของผู้ที่ส่งมา

     วันนี้ (22  ตุลาคม  2561)  ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ศอ.บต. พลเรือตรีสมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.)  จัดประชุมเพื่อรวมพลังปรับทิศ  มุ่งสู่การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ  ศอ.บต.ผู้อำนวยการสำนัก/กอง  ศอ.บต.  ข้าราชการ พนักงานราชการ  และลูกจ้าง  ศอ.บต. เข้าร่วม

     พลเรือตรีสมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. ชี้แจ้งประเด็นการปรับปรุง  บทบาท  ภารกิจ  อำนาจหน้าที่  และโครงสร้าง  ศอ.บต. เพื่อรองรับการพัฒนา จชต.  พร้อมกล่าวถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ  ที่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับบทบาท ศอ.บต.  ว่าจะมีหน้าที่เชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาของกระทรวง/กรมให้เป็นเอกภาพ  นำไปสู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม  เร่งรัด ผลักดันการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย  เสริมการทำงานของกระทรวง กรม หน่วยงานของรัฐ ให้มีความต่อเนื่อง  และสนับสนุนการพัฒนาเสริมความมั่นคงของ  กอ.รมน.ภาค 4  สน.  อีกทั้งได้ชี้แจงภารกิจและพันธกิจใหม่ ของ  ศอ.บต. คือ วิเคราะห์และสังเคราะห์  จากสถานการณ์  สภาพแวดล้อม  ทิศทาง/เป้าหมายการพัฒนา จชต.  ซึ่งโครงสร้าง  ศอ.บต. ประกอบด้วย พันธกิจ 4 ด้าน คือ กลุ่มบริหารงานเชิงยุทธศาสตร์  กลุ่มภารกิจประสานและเร่งรัดการพัฒนาพิเศษ กลุ่มภารกิจบูรณาการและขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาและพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคง และกลุ่มภารกิจบริหารและอำนวยการ  อีกด้วย

     ขณะที่ด้านนาวาเอกจักรพงษ์  อภิมหาธรรม   ช่วยราชการ ศอ.บต. (ขับเคลื่อนงานด้านยุทธศาสตร์)  กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำแผนงานเพื่อรองรับ พ.ร.บ. การบริหารราชการ  จชต.  พ.ศ. 2553  รองรับการปรับบทบาท  ภารกิจ  และโครงสร้างการจัด  ศอ.บต.ใหม่ โดยเป็นส่วนหนี่งของยุทธศาสตร์ ศอ.บต.  และเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์  เชื่อมต่อการพัฒนาให้ครบวงจร ไร้รอยต่อ สำหรับยุทธศาสตร์เสริมการพัฒนา จชต.  แบ่งออกเป็น 4 ส่วน  คือ 1.บทนำ  ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการอำนวยการ 2.บริหารจัดการ  สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ในพื้นที่  จชต. ได้แก่ ภาพรวมสถานการณ์  และปัญหาและประเด็นท้าทายด้านการพัฒนา  3.ยุทธสาสตร์และนโยบายที่เกี่ยวข้อง  4.ยุทธศาสตร์เสริมการพัฒนา  จชต. พ.ศ. 2562-2564  ซึ่งประกอบด้วย  6 ประเด็น  ได้แก่  การพัฒนาเศรษฐกิจ  การพัฒนาสังคม  การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  การบริหารจัดการภาครัฐ  การพัฒนาเพื่อความมั่นคง  และการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่

     อย่างไรก็ตาม ในการประชุมชี้แจงครั้งนี้ พลเรือตรีสมเกียรติ  ผลประยูร  รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต.  ได้เน้นย้ำว่า  ศอ.บต. คือหน่วยการที่เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง  ซึ่งประชาชนเหล่านี้บอบช้ำมากว่า 15 ปี  แต่ในปัจบันสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น  ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติงานที่ของ ศอ.บต. ทุกคนจะต้องทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่  เต็มความสามารถ เพื่อที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างอาชีพ  สร้างรายได้ ให้กับประชาชนในพื้นที่  ให้มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  และเชื่อว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพื้นที่ จชต. ความสงบจะเกิดขึ้นในเร็ววัน

     วันนี้ (22ตุลาคม 2561เวลา 10.20น.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ  เดินทางลงพื้นที่ มัสยิดนัจมุดดีน ต.ทรายขาว  อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อพบปะผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายอำเภอโคกโพธิ์ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้านตลอดจนประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้เยี่ยมชมมัสยิดซึ่งมีการก่อสร้างแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทย และสถาปัตยกรรมของมุสลิมและเยี่ยมชมอัลกุรอ่านซึ่งถูกจารึกด้วยลายมือและมีอายุ มากกว่า 900 ปี

     ต่อมา เวลา 11.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ เดินทางไปยัง วัดทรายขาวเพื่อพบปะทักทายให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยกล่าวว่า  ต.ทรายขาว ถือว่าเป็น ตำบลที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนต้องแวะมาเยี่ยมชม เพื่อเห็นความยิ้มแย้มแจ่มใส เห็นการทำงานร่วมกันทั้งพี่น้องชาวมุสลิมและไทยพุทธ และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จุดเด่นคือการที่เรามีจุดรวมจิตใจของทั้งสองศาสนาคือวัดและมัสยิด มีคัมภีร์อัลกุรอ่านที่เก่าแก่โบราณมีอายุเกือบพันปี เช่นเดียวกับวัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธที่อยู่ในพื้นที่     เมื่อเรามีศูนย์รวมจิตใจ ข้าราชการก็ต้องทำงานและดูแลประชาชนสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เชื่อมั่นว่าข้าราชการไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. ที่อยู่ในพื้นที่จะต้องร่วมใจกันดูแลชาวบ้านให้อยู่กันอย่างมีความสุข สงบสุข

     อย่างไรก็ตาม ตำบลทรายขาวเป็นชุมชนที่เข้มแข็งด้านความสมานฉันท์ สามัคคีของชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม รวมทั้งมีความรักใคร่กลมเกลียว ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์อันดีงามนี้มีมายาวนานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ นอกจากนี้ ต.ทรายขาว ยังมีมนต์เสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

     วันนี้ (21 ตุลาคม 2561 เวลา 16.30 น.) ที่ ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ตลอดจน เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วม
     พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า การลงมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมทั้งสานต่อนโยบายของอดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้วางนโยบายไว้เป็นอย่างดีและท่านได้ลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง เรื่องหลักๆในการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องกำลังพล ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องของเอกภาพในการบังคับบัญชา โดยร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างจริงจัง ทำงานร่วมกันและมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าการทำงานเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น รวมทั้งได้เน้นในเรื่องของการป้องกันเชิงรุก เพื่อจำกัดความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยในวันนี้ได้มีโอกาสพบปะผู้นำศาสนาในพื้นที่ซึ่งได้เห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุนการทำงานในทุกมิติโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหายาเสพติด และได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ดูแลกำกับไม่ให้เกิดเหตุ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสรเสรี อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
     พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เผยอีกว่า การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ การปรับปรุงกล้องวงจรปิดให้มีความมาตรฐาน บูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายลงไปช่วยเหลือประชาชน หากรักษามาตรฐานในเรื่องต่างๆเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง มีความร่วมมือจากผู้นำศาสนา เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ปัญหาคลี่คลาย และที่สำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้เน้นย้ำให้มีความเข้มงวดในการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดนให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย
     ทั้งนี้ในวันที่ 22 ตุลาคม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย