Select Page

คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดประชุมการแก้ปัญหาความไม่สงบในระยะ 5 ปี เน้นแผนโครงการที่บูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย ขับเคลื่อนแก้ปัญหาพร้อมกัน เพื่อให้ตรงจุดและเป็นรูปธรรม

     สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำหนดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำรายละเอียดโครงสร้างสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระยะ 5 ปีภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความมั่นคง โดยในวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมขึ้นทีห้องราชดำเนิน ชั้น 1 โรงแรมโรยัลปริ้นเซส ถนนหลานหลวง กรุงเทพมหานคร ซึ่งในวันที่ 18 ตุลาคม มีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุม

     ทั้งนี้ในการประชุม คณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบไม่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาความมั่นคงที่แท้จริงเพื่อร่วมกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาแต่ละด้านให้เป็นรูปประธรรม พร้อมกำหนดแผนงานและโครงสร้าง เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้บูรณาการร่วมกันสร้างความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

     นี้ในการประชุมทั้ง 2 วันนั้นมีการรายงานถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงเกี่ยวกับปัญหาชุมชนไทยพุทธ และสภาพสังคมในพื้นที่ กรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงระยะ 20 ปีและแผนแม่บทการป้องกันและการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โครงสร้างสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพประชากร เป้าหมายในพื้นทีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนการกำหนดโครงการไทยพุทธคืนถิ่นและโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ใน จชต.

     อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมตลอดทั้ง 2 วันเป็นการรวบรวมข้อมูลในขั้นต้น โดยจะมีการประชุมสรุปแนวทางอีกครั้งในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 นี้

 

 88 total views,  1 views today

กิจกรรมมดะวะห์โลกที่มัรกัสตาเซะ ยะลา ผลตอบรับเกินคาด ชาวมุสลิมเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 150,000 คน ด้านผู้ทรงคุณวุฒิ ชื่นชม เป็นกิจกรรมในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่การเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริง

        กิจกรรมอิสตีมะฮ์หรือดะวะห์โลก ที่จัดขึ้นบริเวณ ต.ตาเซะ จ.ยะลา ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา  มีชาวมุสลิมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศให้การตอบรับและเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150,000 คน ทั้งนี้เพื่อร่วมศึกษาแนวทางศาสนาที่ถูกต้องจากอูลามะห์(ผู้รู้) ขณะเดียวกันสถานีรถไฟตาเซะ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใกล้กับสถานที่จัดกิจกรรม ได้เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเพื่อแวะจอดรับผู้โดยสารที่ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์ลงปลายทางที่สถานีตาเซะ ตลอดในช่วงการจัดกิจกรรม กว่า 15,000 คน
        นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นนี้เป็นความคิดริเริ่มมาจาก นายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา สิ่งที่น่าชื่นชมในการพบปะคือถือเป็นการพบปะในระดับโลกในสถานที่ที่เคยเป็นป่าแต่สามารถเนรมิตได้ในเวลารวดเร็ว โดยมีเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ เหมาะสำหรับปฏิบัติศาสนกิจและสำหรับที่พักอาศัยของผู้เข้าร่วมและแขกจากต่างประเทศ มีรถผลิตน้ำดื่มสะอาดบริการฟรี มีบริการห้องน้ำเคลื่อนที่ให้บริการกว่า 100 ห้อง มีรถบรรทุกน้ำและเรือท้องแบนพร้อมถังน้ำขนาดใหญ่ให้บริการสำหรับอาบน้ำละหมาด  มีหน่วยพยาบาลและเจ้าหน้าที่หมุนเวียน ตลอด 24 ชั่วโมง
        นายนิมุ มะกาเจ เผยอีกว่า นอกจากนี้มีรถไฟไว้บริการสำหรับจอดรับผู้มาร่วมงาน ทุกขบวน ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่พี่น้องมุสลิม จะได้มาเรียนรู้ การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายตามยุคสมัยเพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นการมาพบปะระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกันกว่าแสนคนถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน หากเราไม่เข้าใจซึ่งกันและกันทั้งศาสนาเดียวกันและต่างศาสนิก ก็จะเกิดความบาดหมางขึ้น เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันและบอกกล่าว บอกเล่าแก่คนในพื้นที่และต่างพื้นทีให้ตระหนักและระมัดระวังตัวเอง ค้นหาความสุขที่แท้จริง การที่พี่น้องต่างพื้นที่มาร่วมกิจกรรมที่นี่ถือเป็นการยอมรับสภาวะของคนในพื้นที่ว่าที่นี่เป็นดินแดนหนึ่งที่จะต้องมาช่วยกันปรับเสริมให้ดีขึ้น กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องข้อบัญญัติทางศาสนาแล้ว ที่สำคัญคือการนำความรู้ทางศาสนาไปเผยแพร่และปรับใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่อยู่ในภาวะปัจจุบันเพื่อกล่อมเกลาให้ลูกหลานเรารอดพ้นจากอบายมุขและสิ่งเลวร้ายทั้งปวงถ้าเราสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปกล่อมเกลาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริงได้
        อย่างไรก็ตาม  ในระหว่างนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันจันทร์ ที่ 22 ตุลาคม 2561

 244 total views

สำนักให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. เยี่ยมเหยื่อ บาดเจ็บจากเหตุระเบิด 5 นาย เพื่อสร้างขวัญและให้กำลังใจ ขณะที่ รองเลขา ศอ.บต. ย้ำ ศอ.บต. ต้องให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนทุกด้าน

        เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561 นางสาวอุบล ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและการบริหาร สำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา เดินทางมายังโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณสวนสาธารณะกาญจนาภิเษก ม. 2 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเวลา 15.19 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้สั่งการให้สำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ร่วมฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด

        สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีร้อยตำรวจเอก พนัสดา พงษ์จีน เจ้าหน้าที่พยาบาลตึกผู้ป่วยใน ของโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย สิบตำรวจตรี ฟาริด แวมายิ อายุ 26 ปี สิบตำรวจตรี ฮัซซาน แตบาตู อายุ 21 ปี ร้อยตำรวจเอก รณวรรษ ทองคำ อายุ 55 ปี สิบตำรวจโท อดิศักดิ์ ยิ้มเจริญ อายุ 25 ปี และ สิบตำรวจโท ธีรศักดิ์ ขาวพร้อม อายุ 26 ปี โดยทั้ง 5 นาย พ้นขีดอันตรายแล้ว

        ในโอกาสนี้สำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบกล่องกำลังใจในนามของผู้บริหาร ศอ.บต. ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 นาย พร้อมนำความห่วงใยของ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. บอกกล่าวกับทุกคน รวมถึงแนวทางการทำงานของ ศอ.บต. ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเยียวยาทุกคนในทุกๆด้าน

 170 total views

ดะวะห์ทั่วโลกทยอยเข้าพัก มัรกัสตาเซะ กว่า 150,000 คน พร้อมทำกิจกรรมด้านศาสนา ด้านจิตอาสาดะวะห์ 3 จชต. รวมตัวอำนวยความสะดวกพื้นที่ กว่า 400 คน

        วันนี้ (19 ตุลาคม 2561) เวลา 09.30 น. ผู้ประสงค์เข้าร่วมศาสนพิธี (อิสตีมะฮ์) ดะวะห์โลก ทั้งในและต่างประเทศต่างทยอยเดินทางเข้าที่พัก กว่า 2,000 ไร่ ที่มัรกัสตาเซะ ตำบลตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ด้วยรถไฟ รถบัสและรถส่วนตัว กว่า 150,000 คน เพื่อร่วมตัวศึกษาแนวทางศาสนาที่ถูกต้องจากอูลามะห์ (ผู้รู้) หลากหลายประเทศ และเพื่อนำแนวทางที่ถูกต้องมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน พร้อมเผยแพร่ศาสนาอิสลามทั่วโลก โดยมีดะวะห์จิตอาสาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 400 คน เป็นผู้อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง การรักษาความปลอดภัยทั้งในบริเวณที่พักและประตูทางเข้าออก สถานที่พัก ห้องน้ำ และสถานที่จอดรถ อูลามะห์จะเริ่มบรรยายเรื่องศาสนา ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันที่ 19 ตุลาคม และจะสิ้นสุดกิจกรรมในวันที่ 22 ตุลาคม 2561

        หัวหน้ารักษาความปลอดภัย มัรกัสตาเซะ ตำบลตาเซะ ให้ข้อมูลทีมข่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่เดินทางเข้าร่วม ศาสนพิธีดะวะห์โลกแบ่งเป็นคนไทย 95 เปอร์เซ็นต์ และคนต่างชาติอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่า จะมีดะวะห์จากทั่วทุกมุมโลกทยอยเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมจนถึงช่วงเย็นของวันที่ 20 ตุลาคม โดยทีมงานมีการจัดสถานที่พักอาศัย แบ่งเป็นโซนคนไทย และต่างชาติ มีแพทย์จากโรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลกรงปินัง และโรงพยาบาลรามัน ช่วยดูแลเมื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีอาการป่วยไข้

        ด้านนายยิ่งยศ เกื้อก่อยอด นายสถานีตาเซะ กล่าวถึงจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมดะวะห์โลกที่ใช้บริการรถไฟว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยมีหนังสืออนุมัติให้รถไฟสายยาว กรุงเทพ-สุไหงโกลก และ สาย กรุงเทพ-ยะลา หยุดพิเศษในช่วงที่มีกิจกรรมดะวะห์โลก โดยในช่วงวันที่ 18-19 ตุลาคมที่ผ่านมา มีดะวะห์ที่ใช้บริการและประสงค์ลงปลายทางที่สถานีตาเซะ กว่า 15,000 คน ทั้งประเภทขบวนรถด่วน รถด่วนพิเศษ และขบวนรถท้องถิ่น อีกทั้งทางสถานียังเปิดเส้นทางผ่าน กว้าง 6 เมตรชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวก ให้ผู้โดยสารสามารถเดินเท้าเข้าสู่ที่พักโดยไม่ต้องใช้บริการรถโดยสารด้วย

        สำหรับมัรกัส หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ศูนย์ดะวะห์ ที่กำลังจะสร้างขึ้นในพื้นที่ตำบลตาเซะ จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ประกอบศาสนกิจของศาสนาอิสลาม นอกจากนั้นเป็นสถานที่เรียนรู้และเผยแพร่ศาสนา เนื่องจากในศูนย์ดะวะห์ ประกอบด้วย มัสยิด โรงเรียนสำหรับท่องจำอัลกุรอาน และเป็นพื้นที่เรียนรู้แนวทางศาสนา ฯลฯ

 852 total views

คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายฯ พร้อมครู กศน. 3 จ. ถกประเด็นการศึกษา จชต. เพื่อนำไปทำแผนปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

     วันนี้ (18 ตุลาคม 2561) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมปัญจเพชร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พันเอก ดร. ก้อง ไชยณรงค์ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน สำนักงานวิจัยกองทัพบก คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายการศึกษาและกลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ เป็นประธานการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นการศึกษา เพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจุดมุ่งหมายในการติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นการศึกษา เพื่อสร้างพลเมืองที่ดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ พร้อมแลกเปลี่ยนและรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนประสบการณ์การทำงานจากผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมีนายอารี ดิเรกกิจ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ศอ.บต. ครูผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม แลกเปลี่ยนความเห็นและเสนอแนะการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการศึกษาในครั้งนี้ด้วย
     ครูผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่กล่าวถึงวิธีการชักจูงเยาวชนให้เข้ารับการศึกษาว่า ใช้แนวทางการโน้มน้าวใจผู้ปกครองและเยาวชนในพื้นที่ให้เข้ารับการศึกษาในระบบ เพื่อให้เข้าสู่ระบบการศึกษาที่มีมาตรฐาน ซึ่งหากไม่สามารถโน้มน้าวใจเยาวชนและผู้ปกครองให้ส่งบุตรหลานเข้าสู่ระบบการศึกษาตามปกติได้ ก็จะใช้วิธีโน้มน้าวเพื่อให้เข้าสู่ระบบการศึกษาตามอัธยาศัย อย่างน้อยให้ศึกษาจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั้งนี้ครูผู้สอนส่วนใหญ่ยังพบว่า เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ไม่นิยมพูดภาษาไทย ซึ่งจะมีการวางแผนและส่งเสริมในลำดับต่อไป
     นอกจากนี้ ผศ.ดร.สุใจ ส่วนไพโรจน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสาธิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวเสนอให้ทุกฝ่ายมีความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาการศึกษา เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชาติบ้านเมือง โดยเสนอให้แก้ปัญหาการไม่มีงานทำหลังจบการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่เป็นอันดับแรก
     ทั้งนี้ภายหลังการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นการศึกษา เพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ทางคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายการศึกษาและกลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ จะนำข้อเสนอในที่ประชุมทั้งหมดไปทำแผน ปรับปรุงการศึกษาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตภายหลังการเลือกตั้ง

 81 total views