Select Page

ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและบริหารสำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. ร่วมพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ 2 ราย พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจ และชี้แจงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

          วันนี้ (11 ตุลาคม 2561) ที่ วัดต้นสน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี  นางสาวอุบล ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและบริหารสำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ศอ.บต.  ร่วมพิธีฌาปนกิจศพนางสาวอารมย์ จอมเพ็ชร (มารดา) อายุ 46 ปี และนายกวินท์ ชวิศสกุล (บุตร) อายุ 27 ปี  ซึ่งทั้ง 2 เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงขณะอยู่ภายในร้านน้ำชา เพื่อซื้ออาหาร ในพื้นที่บ้านพิเทน หมู่ที่ 2 ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561

          โดยบรรยากาศในพิธีเป็นไปอย่างโศกเศร้า นอกจากมีครอบครัว ญาติพี่น้อง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐเดินทางมาร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย อาทิ พล.ต.ระเมียร สร้อยจิตร หัวหน้าชุดประสานงานกองทัพภาคที่ 4  นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอบ้านแหลม ข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่

          และในโอกาสนี้ นางสาวอุบล  ศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและบริหารสำนักการ ให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศอ.บต. ได้ร่วมพูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัว พร้อมทั้งชี้แจงให้รับทราบถึงรายละเอียดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย โดยจะให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีของผู้เสียชีวิตจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  รายละ  500,000   บาท รวมถึง  จะดูแลในภาพรวมของครอบครัว เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัวให้ดีขึ้น

 516 total views

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานปฐมนิเทศเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34

       วันนี้ (29 กันยายน 2561) เวลา 10.00 น. ที่ โรงแรม บีพี แกรนด์ ทาวเวอร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี / ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34 โดยมี นายอารี ดิเรกกิจ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ศอ.บต. รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนครูพี่เลี้ยง และเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 34 จำนวน 320 คนให้การต้อนรับ

        พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี / ประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการ “ สานใจไทย สู่ใจใต้” ได้กล่าวให้โอวาทแก่น้องๆสานใจไทยสู่ใจใต้รุ่นที่ 34 ว่า การทำงานในหน้าที่ของเรา สักวันเมื่อถึงอายุที่ต้องเกษียณ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป แต่ความรับผิดชอบของความเป็นคนไทย ไม่มีวันหมดอายุ เราทุกคนมาจากหลายพื้นที่ ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ต่างศาสนาที่แตกต่างกันไป แต่เราทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนกัน เราทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่เป็นคนไทย รู้จักกัน สร้างความเชื่อถือไว้วางใจในทุกปัญหาโดยเน้น 2 หัวข้อคือ 1. ความเป็นมิตรผูกพันต่อกัน สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย 2. การสร้างโอกาส โดยเยาวชน 320 คนที่เข้าโครงการคือพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ถึงแม้บางครั้งน้องๆทุกคนจะพบเจอกับปัญหา หรืออุปสรรค แต่ทุกคนก็ไม่เคยท้อ และเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะสิ่งเหล่านั้นคือการที่เราทำด้วยหัวใจ

        พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวอีกว่า อนาคตของเราอยู่ที่การศึกษา การที่น้องๆทุกคนเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ คือการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา การได้ไปเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่เป็นการเพิ่มพลังบวกให้เยาวชนได้รู้ถึงสิ่งใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาพื้นที่ชุมชน สังคมและประเทศชาติของเราให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

       ด้านนายอารี ดิเรกกิจ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ศอ.บต. กล่าวว่า โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นดำริ ของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยการน้อมนำยุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาความไม่สงบและความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเน้นสร้างสังคมสมานฉันท์และพัฒนาเครือข่ายเยาวชนให้มีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และเป็นพลังของแผ่นดินอย่างมีคุณภาพ โดยมีการบูรณาการแผนงานของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ตามอุดมการณ์ของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ที่ผ่านมา ศอ.บต. และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสต้อนรับคณะของครอบครัวอุปถัมภ์จากกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้ถือโอกาสลงมาเยี่ยมเยียนลูกๆ เยาวชนและครอบครัว ที่เคยไปพำนักอาศัยด้วยกันเสมือนญาติ ทั้งนี้มีหลายครอบครัวที่รับอุปการะเยาวชนโดยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะศึกษาต่อ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาจากโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” อย่างแท้จริง

       สำหรับเยาวชนที่เข้าปฐมนิเทศเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ของกรมการปกครอง ระหว่างวันที่ 26 – 29 กันยายน 2561 จะเพื่อปรับพื้นฐานการเข้าสู่เป็นสมาชิกสานใจไทย สู่ใจใต้ เต็มรูปแบบ ก่อนที่จะเดินทางสู่ครอบครัวอุปถัมภ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงในวันที่ 29 กันยายน ถึง 28 ตุลาคม 2561 นี้

 107 total views

เจ้าหน้าที่ สถานีวิทยุ ศอ.บต. ร่วมกิจกรรมและถ่ายทอดเสียงการเสวนาในหัวข้อ “ พระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ”

          วันที่ 5 ตุลาคม 2561 นายสุขเกษม จารงค์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุซัวรอกีตอ ศอ.บต.ภาคภาษามลายู สำนักสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. ร่วมเป็นวิทยากรเสวนาและนำคณะเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุของ ศอ.บต. ถ่ายทอดเสียงในกิจกรรมเสาวนาในหัวข้อ “ พระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ” ของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้  ณ ห้องประชุม  ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้  อำเภอเมือง  จังหวัดยะลา โดยมี รองศาสตราจารย์ เฉลิมยศ อุทยารัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดน  ภาคใต้ คณะครู เจ้าหน้าที่และนักเรียนโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมกิจกรรม

          โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นจากพระราชหฤทัยห่วงใยเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในปี พ.ศ. 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการกิตติมศักดิ์  เพื่อให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและขาดแคลนทุนทรัพย์ได้ศึกษาวิชาชีพต่างๆ นำความรู้ไปประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้

          รองศาสตราจารย์ เฉลิมยศ อุทยารัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส จชต. เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเสวนาในครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักเรียนและบุคลากรที่จะร่วมจัดกิจกรรมโครงการดาบสเคลื่อนที่ ในวันเสาร์ ที่ 13 ตุลาคม 2561 ณ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์

          สำหรับการเสวนาในหัวข้อ “ พระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ” มีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ท่านเจ้าคุณ ดร.พระโสภณ  ธรรมมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดยะลาและเจ้าอาวาสวัดนิโรธสังฆ์รามยะลา ว่าที่ร้อยโท ดิลก ศิริวัลลภ  ล่ามประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 9 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรภรณ์ มั่นเศรษฐวิทย์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย  คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และนายสุขเกษม จารงค์    ผู้อำนวยการสถานีวิทยุซัวรอกีตอ ศอ.บต.ภาคภาษามลายู สำนักสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. ร่วมกันถ่ายทอดศาสตร์พระราชาของพระองค์ทั้งพระราชดำริ พระราชดำรัส  พระบรมราโชวาท  พระราชกรณียกิจและโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ เพื่อตามรอยพระราชดำริในการดำเนินชิวิตของประชาชนในพื้นที่

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุของ ศอ.บต.ได้ร่วมถ่ายทอดเสียงกิจกรรมผ่านวิทยุ ศอ.บต. ทั้งภาคภาษาไทย และภาษามลายู เพื่อเผยแพร่ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ ศอ.บต.พร้อมให้การสนับสนุนและบูรณาการกิจกรรมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เป็นประโยนช์ต่อประชาชนต่อไป

 223 total views

รองเลขาธิการ ศอ.บต. พบปะและมอบนโยบายแก่บุคลากรเพื่อรับทราบแนวทางการบริหารงานและทิศทางการดำเนินงานของ ศอ.บต. ในอนาคต

        วันนี้ (4 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น.) ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. พบปะและมอบนโยบายเพื่อรับทราบแนวทางการบริหารงานและทิศทางการดำเนินงานของ ศอ.บต. ในอนาคต “การก้าวเดินของ ศอ.บต. จากวันนี้สู่อนาคตภายใต้ภารกิจและบทบาทใหม่” โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้อำนวยการสำนัก/กอง ต่างๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่บุคลากร ของ ศอ.บต. เข้าร่วมรับฟัง

        พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพบปะเจ้าหน้าที่บุคลากรของ ศอ.บต. เพื่อวางแผนในการก้าวเดินไปสู่อนาคตเพื่อให้เข้าใจตรงกัน บุคลากรของ ศอ.บต. มีความสำคัญเท่ากันทั้งสิ้น วันนี้เป็นการมาพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจเพื่อก้าวไปด้วยกัน และสร้างสิ่งที่เรารอคอยคือความสงบและสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ในขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้คือเป็นบทบาทที่ทางรัฐบาลให้ดำเนินการ โดยเปลี่ยนภารกิจ เปลี่ยนโครงสร้าง พันธกิจ อำนาจหน้าที่ ที่ต้องก้าวเดินไปข้างหน้า พวกเราจึงจำเป็นต้องรับทราบและเข้าใจตรงกัน โดยหน่วยงานหลักที่ต้องพาแผ่นดินใต้ไปสู่ความสงบคือ กอ.รมน. ภาค 4 สน. โดย ศอ.บต. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานในการอำนวยการบริหารจัดการภาคใต้ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดเป็นพื้นที่ที่เราต้องดูแล เป็นพื้นที่ที่เราต้องทำให้เกิดความสงบและสันติสุขให้ได้ในอนาคตข้างหน้า วันนี้ถึงเวลาที่ ศอ.บต. ต้องปรับบทบาทตัวเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศที่จะเดินไปข้างหน้า 20 ปี รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพภายใน ของ ศอ.บต. และลดความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นๆ โดยเราจะทำในส่วนที่จะเติมช่องว่างและนำองค์ความรู้ต่างๆมาปรับเพื่อนำไปสู่องค์กรยุคใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้

        สำหรับผลการดำเนินงานของ ศอ.บต.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการภายใต้การน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ และนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมถึงคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลการดำเนินงานในภาพรวมประสบความสำเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ

 105 total views

รองผู้ว่าราชการ จ.ยะลา พร้อมผู้แทน ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ และครูในพื้นที่ ร่วมเทิดพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนพรรษาครบรอบ 66 พรรษา ในงาน Symposium สื่อสองภาษาฯ ไทย-มลายู แบบประยุกต์ จชต.

         วันนี้ (3 ตุลาคม 2561) เวลา 09.00 น. ที่ลานอเนกประสงค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ปฐมฤกษ์รัชกาลที่ 10 ในราชวงศ์จักรี เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนพรรษาครบรอบ 66 พรรษา พร้อมเป็นประธานเปิดงาน Symposium สื่อสองภาษาบูรณาการทักษะ EF (Executive Functions) และนิทรรศการ โครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ระบบสองภาษา (ไทย-มลายู) แบบประยุกต์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้ภาษามลายูเป็นสะพานเชื่อมโยงสู่การเรียนรู้ และเพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาไทย มีทักษะการคิดเชิงบริหาร EF เตรียมความพร้อมในการเรียนของเด็กได้มากกว่าระดับสติปัญญา IQ พร้อมกระตุ้นให้เด็กปฐมวัยต้องการมาโรงเรียนมากขึ้น อีกทั้งเพื่อให้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยและคณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนได้ส่วนเสียในการตอบสนองความต้องการของชุมชน โดยมีนายสุวิทธิ์ ชูมัง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ และคณาจารย์ในพื้นที่จังหวัดยะลาเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

         นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวขอบคุณครูผู้สอนในพื้นที่ และสถานศึกษาทุกโรงที่ร่วมกันใช้ภาษามลายูเชื่อมโยงสู่การเรียนรู้ภาษาไทยที่เข้มแข็ง เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ต่อไปในระดับประถมศึกษา และเพื่อปูพื้นฐานนักเรียนในการเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน อย่างไรก็ดีผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ระบบสองภาษา (ไทย-มลายู) แบบประยุกต์ จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผลเป็นที่ประจักษ์ว่า เป็นโครงการที่พัฒนารูปแบบการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และอาชีพ อีกทั้งยังส่งผลก่อให้เกิดความสมานฉันท์ระหว่างประชาชนกับบุคลากรทางการศึกษาอีกด้วย

         ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลายังได้มอบรางวัลแก่โรงเรียนที่นักเรียนมีผลการสอบ O-NET สูงเทียบเท่าคะแนนระดับประเทศ รางวัลโรงเรียนและห้องสมุดดีเด่น ในส่วนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ระบบสองภาษาฯ ในปีงบประมาณ 2561 นี้ มีโรงเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดยะลาเข้าร่วม ทั้งสิ้น 70 โรงเรียน

 72 total views