Select Page

องคมนตรี เชิญพระราชกระแส ในหลวง-พระราชินี ทรงห่วงใยราษฎรและเจ้าหน้าที่ จชต. เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

วันนี้ (19 เม.ย.2567) เวลา 13.00 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี และคณะฯ ลงพื้นที่ ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจ.สงขลา โดยมี พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่

โอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มายังเจ้าหน้าที่ และ ราษฎรในพื้นที่ทุกคน ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ทรงห่วงใยและทรงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อีกทั้งทรงขอบใจและให้กำลัง ทรงรับสั่งถึงการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ว่า ต้องมีแผนการทำงานรัดกุม และนำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน แก้ไขให้ดียิ่งขึ้น เพื่อทบทวนการทำงานให้มีความรอบคอบ ไม่ประมาท และทรงรับสั่งสิ่งใดที่ประสงค์ขอพระราชทานให้แจ้งผ่านหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องจะทรงพระราชทานความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

จากนั้นเวลา 14.00 น. องคมนตรี และคณะฯ ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า การดำเนินงานโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างและขยายอาคาร สถานศึกษาและหลักสูตรเพิ่มเติม เพื่อรองรับจำนวนผู้เรียนที่เพิ่มขึ้น โดยจะดำเนินการรับสมัครนักเรียนใหม่ รุ่นที่ 14/2567 ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ที่สนใจเข้ารับการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนติดตามการมีงานทำของศิษย์พระดาบส รุ่นที่ 13/2566 ภาพรวมมีสถานประกอบการรับเข้าทำงานแล้ว 87% ประกอบด้วยช่างซ่อมรถจักรยานยนต์, ช่างซ่อมรถยนต์, ช่างสีรถยนต์, ช่างไฟฟ้าและช่างเชื่อม ขณะที่ยังไม่มีสถานประกอบการรับเข้าทำงานอยู่ที่ 13% อีกทั้งร่วมหารือ แก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ พร้อมมอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยมีคณะกรรมการบริหารโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ทั้งนี้โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมให้เยาวชนนอกระบบใฝ่เรียน ใฝ่รู้ มีโอกาสเล่าเรียนด้านอาชีพที่เหมาะสม มีคุณธรรมและจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างที่หลากหลาย รวมทั้งมีอาชีพอันเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างเยาวชนเหล่านี้ให้เป็นพลเมืองดี เป็นที่พึ่งของตนเองครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติต่อไป

 5 total views,  5 views today

เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมประชุมเตรียมการต้อนรับ รมช.กระทรวงคมนาคม และคณะ ซึ่งมีกำหนดการลงพื้นที่ ตรวจราชการด้านการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ที่ จ.ปัตตานี 23-24 เม.ย.67 นี้

วันนี้ (19 เมษายน 2567) พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมการปกครอง) เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบ Zoom meeting ณ ห้องประชุมปฏิบัติการชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศอ.บต. เพื่อหารือเตรียมการต้อนรับ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ซึ่งมีกำหนดการ ลงพื้นที่ตรวจราชการด้านการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดปัตตานีระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน 2567 พร้อมกันนี้ นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. ได้เข้าร่วมประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดปัตตานีเพื่อร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย โดยมี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานการประชุม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ที่ประชุมมีการ มอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อให้การตรวจราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในการพัฒนายกระดับเส้นทางการคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ พัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะเพื่อสนับสนุนและยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่

 9 total views,  9 views today

จ.สงขลา ประชุมคณะทำงานประจำศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2567 ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เที่ยวบินแรก เริ่ม 9 พ.ค. 67 นี้

วันนี้ (18 เมษายน 2567) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมหารือคณะทำงานประจำศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ในเทศกาลฮัจย์ ประจำปี 2567 (ฮ.ศ.1445) ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยมีนายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กรมการปกครอง นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา นายศักดิ์กรียา บินสาแหละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับในที่ประชุม ได้มีการหารือถึงแนวทางการดำเนินงานในการเตรียมความพร้อม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกัน พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อหาข้อสรุปและดำเนินการแก้ไขในจุดบกพร่องให้ได้รับการแก้ไข เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ในปี 2567 จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกำหนดพิธีส่งอำนวยพรแก่ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ สู่ท่าอากาศยานมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเที่ยวบินขาไปช่วงต้น ระหว่างวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2567 และช่วงปลาย ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2567 ส่วนเที่ยวบินขากลับช่วงต้น ระหว่างวันที่ 23-30 มิถุนายน 2567 และช่วงปลาย วันที่ 17 กรกฎาคม 2567

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้หารือการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ ตั้งแต่ก่อนการเดินทางด้วยการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกำหนดให้กับผู้แสวงบุญทุกคน พร้อมออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รวมทั้งการจัดส่งทีมแพทย์พยาบาลไปดูแลระหว่างการประกอบพิธี และติดตามเฝ้าระวังสุขภาพหลังเดินทางกลับอีก 14 วัน ด้วย

อย่างไรก็ตามในส่วนของการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารจะดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ จัดทำข่าวการเตรียมความพร้อมในการส่งผู้ประกอบพิธีฮัจย์ การเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกต่างๆ การผลิตสปอตวิทยุภาคภาษาไทย และภาษามลายู โดยจะขอความอนุเคราะห์สถานีวิทยุกระจายเสียง วิทยุชุมชน และหอกระจายข่าวในพื้นที่ดำเนินการเผยแพร่ในช่วงต่างๆ ตามความเหมาะสม รวมถึงการผลิต info graphic ในเหตุการณ์สำคัญ เช่น บรรยากาศการเตรียมงาน บรรยากาศในช่วงเที่ยวบินปฐมฤกษ์ การจัดหาพิธีกรภาษาไทยและภาษามลายูท้องถิ่น ตลอดจนการ Live สด และประสานสื่อในการร่วมทำข่าว เป็นต้น

 30 total views,  19 views today

ศอ.บต. เดินหน้าเพิ่มศักยภาพเยาวชน “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 ก่อนเดินทางเรียนรู้วิถีสังคมพหุวัฒนธรรม ในพื้นที่ภาคกลาง

วันนี้ (18 เมษายน 2567) ที่ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิด กิจกรรมอบรมเตรียมความพร้อมเยาวชนและครูพี่เลี้ยง โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 โดยมี ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ครูพี่เลี้ยง และเยาวชนสานใจไทยสู่ใจใต้รุ่นที่ 42 ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมกว่า 340 คน

นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ตลอดชีวิตเชื่อมาเสมอการแก้ไขปัญหาสำคัญอยู่ที่การเริ่มต้นให้ความรู้ในตัวทรัพยากรบุคคล ซึ่งโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ได้ดำเนินการมาถึงรุ่นที่ 42 หากโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะทำให้เยาวชนในพื้นที่มีโอกาสพัฒนา ได้เห็นสิ่งที่แตกต่างและสามารถนำมาปรับใช้ เปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าให้มีความเจริญยิ่งขึ้น ในนามศอ.บต. ต้องขอบคุณน้องๆและทุกภาคส่วนซึ่งเชื่อว่าตลอดการเข้าร่วมกิจกรรมน้อง ๆ เยาวชนทุกคนคงจะมีความสุข ที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกัน เพื่อมาสร้างเป็นพลังให้กับสังคมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับบ้านเมือง ตามดำริของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ต่อไป

ด้านตัวแทนน้องเยาวชน จากโรงเรียนดรุณศาสตร์ จังหวัดปัตตานี กล่าวขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ได้สนับสนุนโครงงานสานใจไทยสู่ใจใต้ให้ก้าวมาถึงรุ่นที่ 42 ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งรู้สึกประทับใจมากและภูมิใจที่ได้มาอยู่จุดๆนี้ รอคอยทุกวัน ที่จะได้เจอเพื่อน ๆ ต่างศาสนาต่างภูมิลำเนาและอยู่ท่ามกลางสังคมพหุวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้จากค่ายนี้ ที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตต่างศาสนาไปถ่ายทอดให้กับรุ่นหลัง ๆ ได้รู้สึกถึงโอกาสที่หาได้ยาก จะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้พัฒนาพื้นที่ชุมชนโรงเรียนให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 เป็นการอบรมเตรียมความพร้อมเยาวชนและครูพี่เลี้ยงก่อนที่จะนำเยาวชนเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมในกรุงเทพมหานครและจังหวัดในเขตปริมณฑลกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 เมษายน 2567 ณ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยมีเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธและอิสลามเข้าร่วมจำนวน 320 คน ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี 85 คน จังหวัดยะลา 53 คน จังหวัดนราธิวาส 87 คน จังหวัดสงขลา ๔๔ คน และจังหวัดสตูล 51 คน

 26 total views,  10 views today

เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมหารือการเตรียมความพร้อมจัดมหกรรม ASEAN Festival 2024 ยกระดับสินค้าและบริการฮาลาลไทยสู่อาเซียน

วันนี้ (17 เมษายน 2567) เวลา 10.30 น. ที่ ศูนย์การค้าอาเซียนมอลล์ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมประชุมหารือการเตรียมความพร้อมการจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอาเซียน 2567 ASEAN Festival 2024 โดยมี นายโมฮัมหมัดซัมรี ซาอิ ผู้จัดการอาเซียนมอลล์ปัตตานี นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน นางสาวอัยดา กูเจะ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวไทยอาเซียน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือในครั้งนี้

ในการนี้ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การเปิดประตูเรื่องฮาลาลให้ก้าวไกลไปยิ่งขึ้น เป็นโอกาสดีที่มีเครือข่ายสินค้าฮาลาลมาเจอกัน ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยดูแลการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ กำลังขับเคลื่อนโครงการระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลให้เกิดการจ้างงาน เกิดรายได้ในพื้นที่อยู่เช่นกัน

ด้านนายโมฮัมหมัดซัมรี ซาอิ ผู้จัดการอาเซียนมอลล์ปัตตานี กล่าวว่า งานนี้เป็นการเปิดประตู่สู่อาเซียน โดยเริ่มต้นจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเชื่อมโยงรัฐตอนเหนือของมาเลเซีย และประเทศอื่นในประชาคมอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการตื่นตัวทั้งในพื้นที่และส่วนรวม อาเซียนมอลล์ ยินดีร่วมงานและรับใช้สังคม ให้คุณค่ากับทุกกิจกรรม ทั้งวิชาการ เศรษฐกิจ และศิลปวัฒนธรรม

นอกจากนี้ นางอัยดา อูเจะ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน ได้นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ให้ ศอ.บต. ช่วยผลักดัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความสะดวกมากขึ้น ประเด็นแรกคือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่อนคลายมาตรการให้รถบัสมาเลเซียที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาสามารถนำรถบัสข้ามไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ ประเด็นที่สอง คือ เนื่องจากพบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียไม่พอใจท่าทีของไทย ดังนั้น จึงขอให้ไทยแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย ประเด็นที่สาม ขอให้ไทยสร้างความเชื่อมั่นว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย และขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย โดยอาจจะมีการจัดงาน Business matching ระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งสองประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ ศอ.บต. เห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งเป็นสนามการค้า และสอดคล้องกับนโยบายของ ศอ.บต. ที่กำลังขับเคลื่อนเรื่องทวินซิตี้ จชต. ของไทยกับรัฐตอนเหนือของมาเลเซีย เพื่อเป็นการปรับภาพลักษณ์ใหม่ชายแดนใต้

สำหรับงานแสดงสินค้าฮาลาลในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อยกระดับความสามารถ และสร้างโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้า และบริการฮาลาลไทยสู่ตลาดฮาลาลอาเซียน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการฮาลาลให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการฮาลาล ในงานมีการแสดงนิทรรศการฮาลาลนานาชาติ นิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนฮาลาล การแสดงสินค้าฮาลาลทั้งในและต่างประเทศ จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ร้านค้า ได้แก่ อาหาร การท่องเที่ยว เพลงพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของมุสลิมในภาคใต้ และกิจกรรมต่าง ๆ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายน 2567 ณ ศูนย์การค้าอาเซียนมอลล์ปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

 54 total views,  15 views today

สมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม เข้าพบเลขาธิการ ศอ.บต. หารือการปกป้องสิทธิ นักศึกษามุสลิมในประเทศ พร้อมเสนอแนวทางเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาอย่างทั่วถึง

วันนี้ (17 เมษายน 2567) เวลา 11.30 น. ที่ ศูนย์การค้าอาเซียนมอลล์ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เยาวชนจากสมาคมนิสิตนักษาไทยมุสลิม (ส.น.ท.) นำโดยนายมูญาฮีดีน โต๊ะเซ็ง นายกสมาคมนิสิตนักษาไทยมุสลิม นำคณะผู้แทนเข้าเยี่ยม คาราวะ และหารือ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยมีนายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมการปกครอง) นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยข้อง ร่วมประชุมหารือในครั้งนี้
 
โดยผู้แทน ส.น.ท. ได้หารือประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย 1. การพบปะนักศึกษาไทยในต่างประเทศ ซึ่ง ศอ.บต. จัดขึ้นทุกปี มีกลุ่มนักศึกษายื่นเสนอให้ ศอ.บต. เข้าเยี่ยมนักศึกษาทุกประเทศอย่างทั่วถึง 2. สิทธิการเข้าถึงของนิสิตนักศึกษาไทยที่ควรได้รับ ทางด้าน ศอ.บต. ได้รับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อพิจารณา และให้ทางสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม เข้าเยี่ยมเยียนและพูดคุยอีกครั้ง และส่งหนังสือมายัง ศอ.บต. เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป
 
ในการนี้ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ขอชื่นชมเยาวชนทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำงานในสมาคมนิสิตนักษาไทยมุสลิม ถือเป็นที่ยอมรับแก่ผู้คนมากมายและเป็นที่ไว้วางใจแก่องค์กร เพื่อให้ทำหน้าที่บริหารจัดการด้านการศึกษาของสมาคมฯ การรวมตัวของเยาวชนในชมรมมุสลิมทั่วประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นการทำงานหนักพอสมควร ดังนั้นอยากให้เยาวชนทุกคนจงทำงานเพื่อสังคมที่ดีแบบนี้ตลอดไป
 
สำหรับ สมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม เป็นองค์กรกลางประสานงานและส่งเสริมความร่วมมือของนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม และได้ขยายผลการดำเนินงานเป็นภาคีความร่วมมือกับองค์กรนักศึกษาไทยในต่างประเทศ และองค์กรนักศึกษาระหว่างประเทศ โดยได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 มีสมาชิกนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทุกมหาวิทยาลัยในประเทศและต่างประเทศบางมหาวิทยาลัยร่วมกันดำเนินงาน เป็นองค์กรส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาของนักศึกษามุสลิม พร้อมปกป้องสิทธิของนักศึกษามุสลิมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระบอบประชาธิปไตย

 34 total views,  5 views today