วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ กองบังคับการกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จัดวันสถาปนาหน่วยทหารพรานกองทัพบก ครบรอบ 46 ปี โดยมีพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พันเอก สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยอดีตผู้บังคับบัญชา และคณะผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่ เข้าร่วม

ภายในงานมีพิธีทางศาสนาพุทธและอิสลาม เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่าผู้เสียสละ ทหารกล้าที่ยอมเสียสละชีวิตเลือดเนื้อ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยทหารพรานและกำลังพลในสังกัด

สำหรับวันที่ 18 กรกฎาคม ของทุกปี ถือเป็น “วันสถาปนาหน่วยทหารพรานกองทัพบก” โดยกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะหน่วยบังคับบัญชาของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานจึงได้จัดให้มีงาน “วันสถาปนาหน่วยทหารพรานกองทัพบกครบรอบ 46 ปี” เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของกำลังพลทหารพรานที่ได้เสียสละทั้งชีวิต และวิญญาณในการปกป้องอธิปไตยของชาติมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นแล้ว กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้กำหนดให้มีพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติหน่วยทหารพราน และเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษทหารพรานจู่โจมกิตติมศักดิ์ให้กับบุคคลที่ได้กระทำคุณประโยชน์ หรือผู้มีอุปการะคุณต่อกิจการทหารพรานทั้งปวง เพื่อตอบแทนคุณงามความดีและเกียรติประวัติต่อไป

วันนี้ (12 กรกฎาคม 2567) ทีมงานจากกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ไปยัง 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลท่าแพ ตำบลแป-ระ ตำบลสาคร และตำบลท่าเรือ ซึ่งอยู่ในอำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เพื่อเปิดเวทีประชาคมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเศรษฐกิจชุมชนในระดับหมู่บ้านและชุมชน โดยมีเป้าหมายเป็นประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับการคัดเลือกจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้ส่งเสริมอาชีพในชุมชนให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือจากชุมชนได้ร่วมเสนอกิจกรรมที่อยากให้เกิดและได้ประโยชน์แก่ชุมชนในอนาคต

สำหรับเป้าหมายการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีเป้าหมายจำนวน 36 ตำบล ซึ่งดำเนินการไปแล้วจำนวน 17 ตำบล และยังมีอีก 19 ตำบล คาดว่าจะแล้วเสร็จตามเป้าหมายภายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 นี้ หลังจากนััน ศอ.บต. จะดำเนินการอบรมผู้แทนแต่ละตำบลเร่งทำโครงการฯ ให้ถูกต้องตามระเบียบ พร้อมเสนอผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการอนุมัติและดำเนินกิจกรรมของแต่ละชุมชนที่ได้เสนอต่อไป

ในการนี้ ผู้แทนจากผู้นำชุมชน กล่าวว่า ขอขอบคุณ ศอ.บต. ที่ได้มอบสิ่งดีๆแก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดสตูล ซึ่งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า นานมากแล้วที่ไม่มีโครงการลงมาสู่ชุมชน และการได้รับโอกาสในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญชิ้นสำคัญแก่ชุมชนอย่างยิ่ง ทำให้ทุกคนรู้สึกตื้นตันใจ และขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญ และได้แก้ปัญหาความยากจนให้กับชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ที่ วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ ” บทบาทหน้าที่และอำนาจของศอ.บต.กับการอำนวยความยุติธรรมและช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการสิทธิมนุยชนสำหรับพระสงฆ์ผู้เยียวยาจิตใจ ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมกับมูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ

โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จำนวน 55 รูป เข้าร่วม

ทั้งนี้เพื่อให้พระสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักในหลักสิทธิมนุษยชน ความรู้ในกระบวนการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหลักการรักษาเยียวยาจิตใจ และสามารถนำไปให้คำปรึกษาแนะนำให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้

วันนี้ (11 กรกฎาคม 2567) นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน พร้อมด้วย นางสาวขวัญจิต เคียงตระกูล ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาเศรษฐกิจฯ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. ลงพื้นที่ 5 ตำบลประกอบด้วย ตำบลย่านซื่อ ตำบลวังประจัน ตำบลควนโดน ตำบลควนสตอ และตำบลฉลุง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เพื่อเปิดเวทีประชาคมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเศรษฐกิจชุมชนในระดับหมู่บ้านและชุมชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายแต่ละชุมชุมจำนวน 100 คน เข้าร่วม ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการโหวตประชามติในการเลือกโครงการของแต่ละชุมชน นอกจากนี้ ศอ.บต. ยังได้ร่วมกับอาจารย์จากวิทยาลัยชุมชนสตูล มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านโครงการก่อนที่จะมีการโหวต

ในการนี้ นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน กล่าวว่า ศอ.บต. เป็นองค์กรในนามรัฐบาลไทยมีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมทรัพยากรมนุษย์ หนุนเสริมเติมเต็มประสานความร่วมมือ ร่วมกับส่วนราชการทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมา ศอ.บต.ได้มีการขับเคลื่อนโครงการที่สำคัญหลายมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วยเช่น ที่ลงมาเปิดเวทีประชาคมให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการโหวตโครงการในแต่ละชุมชนสนใจ เพราะรัฐบาลเห็นความของจังหวัดสตูล ที่จะส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่มีรายได้ในอนาคต

สำหรับการลงพื้นที่เพื่อเปิดเวทีประชาคมในครั้งนี้ มีเป้าหมายทั้งหมด 7 อำเภอใน 36 ตำบล โดยใช้ระยะเวลาในการเปิดเวทีทั้งสิ้น 12 วัน ระหว่างวันที่ 7 – 18 กรกฎาคม 2567 หลังจากสิ้นสุดการเปิดเวทีประชาคมแล้ว ศอ.บต. จะดำเนินการจัดอบรมผู้แทนแต่ละตำบลเพื่อทำโครงการฯให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ ก่อนที่จะนำโครงการเข้าสู้มติการโหวตแบบประชามติ ก่อนส่งไปยังที่ว่าการอำเภอของแต่ละชุมชน เพื่อตรวจความถูกต้องก่อนที่จะเข้าสู่การอนุมัติโครงการได้ และให้แต่ละชุมชนดำเนินโครงการฯได้ โดยผ่านกลไกสภาสันติสุขตำบลเป็นผู้ดูแลต่อไป

วันนี้ (11 กรกฎาคม 2567) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประชุมการจัดทำฐานข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า โดยมีนายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุม ฯ ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 ศอ.บต.

นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่าการพูดคุยในวันนี้นับเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องนำข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นและบรรลุผลให้สำเร็จตามหน้าที่และบทบาทต่าง ๆ ภายใต้ฐานข้อมูลที่ตรงกันของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ภาครัฐจะต้องดำเนินการช่วยเหลือต่อไปในอนาคต โดยมีการออกแบบชุดข้อมูลให้สามารถตอบโจทย์ที่สมบูรณ์และเป็นกลางจากทุกหน่วยงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพงานเยียวยาผู้ได้รับผลกรทบฯ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยศอ.บต.จะเป็นหน่วยงานกลางในการพัฒนาระบบงานใยภาพรวมโดยเชื่อมโยงข้อมูลเก่าและบูรณาการทำงานร่วมกันต่อไป

วันนี้ (10 ก.ค. 2567) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดมหกรรมวิชาการแม่และเด็กจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงแรมปาร์คอินทาวน์ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยมีนางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดมหกรรม และมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และผู้แทนศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพอาสาสมัคร ในการแก้ไขปัญหาสุขภาวะและภาวะโภชนาการต่ำของเด็กเล็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมพัฒนากลไกบริการและบริหารเครือข่ายจัดการภาวะทุพโภชนาการ และยกระดับงานด้านโภชนาการเด็กเล็กและครอบครัวในพื้นที่ อีกทั้งสร้างแรงจูงใจทางบวกและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการจากครอบครัว ชุมชน เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น นักวิชาการ และภาคประชาชนในชายแดนใต้

ผศ.ดร.รอฮานิ เจะอาแซ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี กล่าวถึงการจัดงานในวันนี้ว่าจากการที่คณะพยาบาลศาสตร์ ร่วมกับ ศอ.บต. จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครโภชนาการเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาวะและภาวะโภชนาการต่ำของเด็กเล็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ในวันนี้จึงร่วมกันจัดกิจกรรมมหกรรมวิชาการแม่และเด็ก เพื่อนำเสนอผลงานเชิงประจักษ์ของการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสาธารณสุขในแม่และเด็กของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดการสื่อสารและส่งต่อ พร้อมนำเสนอข้อสรุปของโครงการวิจัย การทำงานของพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการ ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดสงขลา พร้อมนำเสนอโครงการวัคซีน 10 โครงการ ที่ได้ดำเนินงานที่ผ่านมา และอื่นๆ โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมมหกรรมในครั้งนี้กว่า 400 คน

ด้านผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาที่ทุกหน่วยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องร่วมกันแก้ไขคือ ปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในการส่งผลให้เด็กในพื้นที่ขาดสารอาหาร เตี้ย แคระ แกร็น มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ บางรายอาจส่งผลต่อสติปัญญา แม้ว่าอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาสาเหตุหลักๆของกลุ่มคนเหล่านี้ได้ ซึ่งเกิดจากความไม่พร้อมในเรื่องของครอบครัว อาชีพ รายได้ ความรู้ด้านสาธารณสุขจนทำให้ลูกหลานเกิดภาวะทุพโภชนาการดังกล่าว ขอบคุณทุกหน่วยทุกคนที่ช่วยกัน และให้โอกาสพัฒนาสุขภาวะแม่และเด็ก รวมถึงพัฒนารูปแบบการเพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เด็กในพื้นที่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง