วันนี้ (8 ก.ค 67) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ณ โรงแรมบีพีสมิหลาบีช อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 8 – 10 กรกฎาคม 2567 โดยมีบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาสเข้าร่วมทั้งสิ้น 885 คน

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวบัณฑิตอาสาที่เข้าร่วมจะได้ฝึกทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานและสร้างภาวะการเป็นผู้นำในการจัดกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับพื้นที่ตลอดจนการฝึกอบรมทักษะเพื่อยกระดับสู่การเป็นนักจัดการและนวัตกรชุมชน โดยมีวิทยากรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากเครือข่ายสมาคมพฤติกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้แก่ งานออกแบบหลักสูตรพัฒนาบุคลากร บริษัทศูนย์วิชาการอาคเนย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี

ทั้งนี้ศอ.บต.ได้มีการกำหนดแผนขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านกลไกบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ในการเพิ่มทักษะองค์ความรู้ ทักษะเครื่องมือ และสมรรถนะที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ให้บัณฑิตอาสาเป็นแกนหลักประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่ หมู่บ้าน ตำบล เป็นผู้ช่วยประจำพื้นที่ในการร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์หรือนโยบายผู้บริหารของ ศอ.บต. และทำหน้าที่ในการเป็นผู้รับผิดชอบจัดเก็บรวบรวมสอบทานข้อมูลของหมู่บ้าน สนับสนุนภารกิจ การติดตามผลการดำเนินงาน การประเมินผลโครงการ กิจกรรมของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่และสามารถนำข้อมูลมาปรับปรุงประยุกต์ด้านการพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันได้

วันนี้ (8 กรกฎาคม 2567) เวลา 09.00 น. ที่พระอุโบสถ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วย พร้อมด้วย พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้บริหารระดับสูง ศาล ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล จากนั้น พระเทพวชิรนายก เจ้าคณะจังหวัดยะลา นำคณะสงฆ์ 10 รูป ให้ศีล และผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เชิญใบพลู 7 ใบ ถวายประธานสงฆ์ เจิมใบพลู ประธานสงฆ์ ถวายใบพลู 7 ใบ แด่พระโสภณธรรมมุนี ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดยะลา พระเถราจารย์ เพื่อประกอบพิธีดับเทียนชัย ในเวลา 10.00 น. พร้อมทั้งการสวดเจริญพระพุทธมนต์คาถาดับเทียนชัย เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ จากนั้นประธานสงฆ์ พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ขันสาคร และส่งมอบขันสาครให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมทั้งกล่าวคาถาตักน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งขันตักน้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อตักน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากขันสาครใส่คนโท ตามจำนวนที่กำหนด (ปริมาณถึงคอคนโท) แล้วปิดฝา และประธานในพิธี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้ประเคนภัตตาหาร และถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำ จนเสร็จพิธี

ต่อมาในเวลาฤกษ์ 12.00 น. บัณฑิตกฤษประชา อุไรรัตน์ หัวหน้าพราหมณ์ ได้นำประธานในพิธี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยการเบิกแว่นเทียน ประกอบพิธี วักแว่นที่จุดเทียนเข้าหาตัว 3 ครั้ง แล้วใช้มือขวาโบกควันไปยังคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แล้วส่งต่อให้หัวหน้าส่วนราชการที่อยู่ทางซ้ายมือ เวียนไปจนครบ 3 รอบ แล้วส่งให้บัณฑิตผู้ทำหน้าที่เบิกแว่นเทียน จนเสร็จพิธี ณ พระอุโบสถ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จะได้อัญเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นประจำรถที่จัดเตรียมไว้ เคลื่อนขบวนไปศาลากลางจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทั้งนี้ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศจะเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์มาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย และในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะมีพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

วันนี้(7กค.67) จังหวัดยะลา จัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ 76 จังหวัด ณ พระอุโบสถ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีนายอำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา เป็นประธานในการประกอบพิธี และมีนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเข้าร่วม

โดยพิธีดังกล่าวเริ่มขึ้นในเวลา 17.09 น.โดยมีพระเทพวชิรนายก เจ้าคณะจังหวัดยะลา/เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (8กค.67) ทาง จ.ยะลา จะได้มีการประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ในช่วงเวลาประมาณ 9.00น.ณ พระอุโบสถ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลาแห่งนี้ ซึ่งภายหลังจากที่จังหวัดยะลาประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ จะเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์มาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย และในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะมีพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

วันนี้ ( 7 กรกฎาคม 2567 ) เวลา 11.30 น. ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมายให้ นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้แทน พร้อมด้วยนายกิตตินันท์ เซ็งกะชรี นายอำเภอศรีสาคร และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ลงพื้นที่เข้าเยี่ยม จ่าสิบโท วสันต์ เพชรสังหาร อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ขณะลาดตระเวนพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนพักพิงกลุ่มผู้ก่อการร้าย เหตุเกิดบริเวณบ้านไอร์กูเล็ง หมู่ที่ 3 ตำบลศรีบรรพต อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด ขาข้างซ้ายขาด ขาข้างขวาเป็นแผลเปิดเห็นกระดูก แพทย์ได้ทำการรักษาผ่าตัด ตกแต่งบาดแผล เรียบร้อยแล้ว

จากนั้นได้เข้าเยี่ยม จ่าสิบเอก เจริญ เพ็ชรภิมล อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 4903 ขณะเดินทางเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ บนถนนทางหลวงหมายเลข นธ 4013 อำเภอศรีสาคร – อำเภอบันนังสตา บ้านไอร์ตืองอ หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด มีบาดแผลในปอดด้านขวา กระดูกซี่โครงหัก กระดูกสันหลังระดับเอวแตก หลอดเลือดแดงแขนขาฉีกขาดและแผลบริเวณใบหน้า

ในการนี้ นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมในนามเลขาธิการ ศอ.บต. ทั้ง 2 ราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ในส่วนสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือเยียวยา จะมีการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ต่อไป

วันนี้ ( 6 กรกฎาคม 2567) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. เดินไปยังวัดไทยในประเทศมาเลเซีย ณ รัฐกลันตัน เพื่อถวายเทียนจำนันพรรษา ผ้าอาบน้ำฝนและอาสนะ จำนวน 5 วัด ได้แก่ วัดมัชฌิมาราม วัดประชุมธาตุชนาราม วัดพิกุลทองวราราม วัดแจ้งพุทธาวาส และวัดประชุมธาตุชนาราม ณ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เนื่องในเทศกาล วันอาฬหบูชา ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 และวันเข้าพรรษา วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ที่จะเวียนมาถึง

สำหรับการถวายเทียนพรรษาได้กระทำขึ้นก่อนเทศกาลเข้าพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนาทุกปี คือก่อนวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หรือเดือน 8 ที่สอง ในกรณีที่มีอธิกมาส พุทธศาสนิกชนก็จะพากันขวนขวายให้มีการถวายเทียนจำนำพรรษาแก่วัดในท้องถิ่น เพื่อให้พระสงฆ์จุดบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา 3 เดือน สมัยก่อนเทียนพรรษามีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะพระสงฆ์ต้องใช้จุดให้แสงสว่างในการศึกษาพระธรรมวินัย แต่ในปัจจุบันนั้นเทียนพรรษาอาจจะมีความสำคัญลดน้อยไป ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาได้เปลี่ยนมาถวายหลอดไฟฟ้า ถ่านไฟฉาย เป็นต้นแทน แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีการถวายเทียนพรรษากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามของชาวพุทธไม่ให้สูญหายไป

สำหรับวัดไทยในรัฐกลันตัน มีจำนวน 21 วัด 8 สำนักสงฆ์ ซึ่ง ศอ.บต.พร้อมดูแล ส่งเสริมทุกศาสนิกอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนไทยกับชาวมาเลเซีย เชื้อสายไทย ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ รองเลขาธิการ ศอ.บต.ยังได้เยี่ยมชมการเรียน การสอนของครูอาสาสมัครโรงเรียนสอนภาษาไทยวัดมัชฌิมาวิทยาทาน ซึ่งมีนักเรียน จำนวน 262 คน ครู 15 คน และโรงเรียนสอนภาษาไทยวัดพิกุลทองวราราม มีนักเรียน จำนวน 160 คน ครู 15 คน พร้อมมอบหนังสือธรรมศึกษาชั้นตรี ธรรมศึกษาชั้นโท และธรรมศึกษาชั้นเอก ระดับมัธยมศึกษาให้กับผู้แทนครูอาสาสมัครของมูลนิธิพระวิเชียรโมลี เพื่อใช้ในการเรียนการสอน ในส่วนรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย มีจำนวนโรงเรียนสอนภาษาไทย ปีการศึกษา 2567 จำนวน 10 แห่ง นักเรียนรวม 777 คน ครู 65 คน ซึ่ง ศอ.บต.จะได้เติมเต็มในส่วนที่ทางวัดและโรงเรียนต้องการต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่พี่น้องชาวมาเลเซีย เชื้อสายไทย (สยาม) ตลอดถึงรักษา สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธให้ยืนยาวตลอดไป