คนไทยเชื้อสายจีน ร่วมงาน “สมโภชเจ้าพ่อเล่าเอี๊ยะกง หามพระเกี้ยวปักดิน หนึ่งเดียวในประเทศไทย” อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คึกคัก เพื่ออนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ สืบสานให้คงอยู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน

เมื่อค่ำคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวเยาวภา อินชะนะ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา เพื่อแก้ปัญหาชายแดนใต้ ภายใต้กิจกรรม”สมโภชเจ้าพ่อเล่าเอี๊ยะกง หามพระเกี้ยวปักดิน หนึ่งเดียวในประเทศไทย” ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ศาลเจ้าจ่ายเฮงเกียง (เล่าเฮี๊ยะกง) ตลาดสายบุรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยมี นายสืบพงษ์ อโนทัยสถาพร ประธานคณะกรรมการศาลเจ้าจ่ายเฮงเกียง

(เล่าเอี๊ยะก๋ง) ตลาดสายบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่เข้าร่วม

สำหรับกิจกรรม “สมโภชเจ้าพ่อเล่าเอี๊ยะกง หามพระเกี้ยวปักดิน หนึ่งเดียวในประเทศไทย” ประจำปีงบประมาณ 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ สืบสานให้คงอยู่กับชุมชนอย่างยั่งยืนสร้างความเข้าใจความสมานฉันท์ระหว่างชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิมและคนไทยเชื้อสายจีน ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ลดปัญหาความขัดแย้งทางสังคมและศาสนา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ขยายกว้างขึ้น โดยนำประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสื่อนอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ตามนโยบายของรัฐและจังหวัดปัตตานี

นางสาวเยาวภา อินชะนะ กล่าวว่า การจัดงาน “สมโภชเจ้าพ่อเล่าเอี๊ยะกง” หามพระเกี้ยวปักดินหนึ่งเดียวในประเทศไทย เป็นงานที่มีความสำคัญมาก เป็นโอกาสได้แสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อความศรัทธาของพี่น้องชาวจีน ในอำเภอสายบุรีที่มีต่อศาลเจ้าจ่ายเฮงเกียง (เล่าเอี๊ยะกง) ตลาดสายบุรี เป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดมาช้านาน เป็นมรดกตกทอดที่ทรงคุณค่าของ
อำเภอสายบุรี ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษจนถึงรุ่นลูกหลาน
และยังต้องคงสืบสานต่อไป เนื่องจากเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนจีน เป็นสถานที่ ปลูกฝังด้านคุณธรรมและวิถีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามสู่คนและเยาวชน ก่อให้เกิดความรัก สามัคคี ความมีน้ำใจไมตรีต่อกัน เกิดความรักในมาตุภูมิ เป็นพลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการจัดงานสมโภซนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่
ชุมชน จังหวัดปัตตานี เกิดการกระจายรายได้และเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่อีกด้วย