Select Page
 
วันนี้ (14 มีนาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งจุดแรกได้ลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญและมอบของให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดปัตตานี จํานวน ๕๐๐ ชุดพร้อมให้โอวาท
 
จากนั้นเดินทางไปที่ห้องประชุมน้ำพราว โรงแรมซีเอส เพื่อมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้กับบุคลากรสังกัดกรมการปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ผู้แทนทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการ ในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
 
พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้มีการรายงานภารกิจหลักของศอ.บต. ในด้านการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้สนับสนุนการทำงานของจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยอย่างใกล้ชิด โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ 2 ส่วน ดังนี้ 1 การขับเคลื่อนงานตามภารกิจของ ศอ.บต. ร่วมกับ จังหวัด อำเภอ และหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การแก้ไขปัญหาความยากจนตามฐานข้อมูล TPMAP การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และภาคประชาชน เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านกลไก “สภาสันติสุขตำบล” และการขับเคลื่อนงานผ่านแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน 2 ขับเคลื่อนงานผ่านกลไกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมเป็นกรรมการ มีมติกพต. ที่สำคัญ อาทิ การยกระดับการพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับรัฐติดชายแดนไทยของมาเลเซียสู่การเป็นเมืองคู่แฝด Twin cities การสนับสนุนงบประมาณให้กับมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ในการดำเนินโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รวมถึงการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์อุทกภัยในห้วงปลายปี ๒๕๖๖ – ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา
 
ในการนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ฯ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาในวันนี้เป็นการมามอบแนวทางนโนบายและการพลิกฟื้นพัฒนาพื้นที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในสถานการณ์ที่ดีขึ้น เชื่อมั่นว่าความพยายามของรัฐบาลที่จะสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านกลไกสร้างโอกาส สร้างรายได้ ทำให้ผู้คน และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยว มาลงทุน มาใช้ชีวิตในพื้นที่ให้มากที่สุด พร้อมสร้างความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต การใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มาสร้างความเข้าใจต่อการปฏิบัติในทางจิตวิทยาให้มีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยถึงแม้ในพื้นที่จะมีความแตกต่างในเรื่องของเชื้อชาติ ศาสนา แต่เราจะไม่มีการแตกแยก มีความรัก ความสามัคคี และให้กำลังใจซึ่งกัน พร้อมร่วมกันทำให้พื้นที่แห่งนี้สามารถพลิกฟื้นจากสถานการณ์ความรุนแรงสู่โอกาสและความสงบสุขได้
ขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยพัฒนาและยกระดับไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การสร้างความเข้าใจ การให้บริการพี่น้องประชาชนให้เกิดความสะดวกในการดำเนินการทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างเร็วที่สุด อีกทั้งยังมีในส่วนของเรื่องความปลอดภัยที่อยากจะให้ดูแลอย่างเคร่งครัด มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างอย่างเข้มงวด เพื่อดึงดูดให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และนักท่องเที่ยวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนาต่อไป
 
นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมบูธวิสาหกิจชุมชนของผู้ประกอบการให้พื้นที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และมอบอินทผาลัมให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ถือศีลอดและประชาชนในห้วงเดือนรอมฏอนต่อไป

 232 total views,  1 views today