ศอ.บต. ร่วมกับ กต. และหน่วยงานในชายแดนใต้ เตรียมนำคณะ OIC เยือนปัตตานี ชมศาสนสถาน “รัฐพร้อมส่งเสริม-เคารพสิทธิ์แต่ละศาสนา” ในประเทศ

ศาสนสถาน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ ศอ.บต. ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศปักหมุดให้คณะกลุ่มประเทศมุสลิม (OIC) 12 ประเทศ ที่มีกำหนดเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้เยี่ยมชม ในวันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 ในกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจและสานสัมพันธ์คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมประจำปี 2567 ครั้งที่ 2 เพื่อสื่อให้เห็นถึงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเคารพสิทธิ์ของการปฏิบัติศาสนกิจของแต่ละศาสนาในพื้นที่ พร้อมหนุนเสริมให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจกันในสังคมพหุวัฒนธรรม

“มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี” เป็นในหนึ่งศาสนสถานที่มีในกำหนดเยือนในวันแรก (11 มิ.ย.) ณ จังหวัดปัตตานี เนื่องจากเป็นสถานที่ศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ เป็นศาสนสถาน ศูนย์รวมจิตใจของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่ง อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการสร้างอาคารปีกด้านซ้ายและด้านขวาของมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ขณะเสด็จพระราชดำเนินมายังมัสยิดกลางปัตตานี เมื่อปี ๒๕๓๖ และทรงห่วงใยชาวมุสลิม ที่ต้องละหมาดในมัสยิดที่คับแคบ ไม่สะดวก นำมาซึ่งการบูรณะปรับปรุงอาคารใหม่ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ที่มีต่อชาวมุสลิมในจังหวัดปัตตานี

มัสยิดกลางปัตตานีก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ 2497 ใช้เวลาดำเนินการสร้างประมาณ 9 ปี ทำพิธีเปิดโดย จอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 มีที่ตั้งบริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี – ยะลา ย่านตำบลอาเนาะรู กว้าง 3 ไร่ 55 ตารางวา ตามแนวคิดของรัฐบาลในสมัยนั้น ที่ต้องการให้เกิดสันติสุขขึ้นในพื้นที่ห่างไกล สำหรับอาคารมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีมียอดโดมสีเขียวขนาดใหญ่และโดมขนาดเล็กลงไปล้อมรอบทั้ง ๔ ด้าน ในส่วนด้านข้างมีหออะซานละหมาด 2 หอ และมีสระน้ำตั้งอยู่ด้านหน้าของมัสยิด ที่สะท้อนแสงเงาของมัสยิด ได้อย่างงดงามอีกด้วย